ถือเป็นกระแสนมาแรงฉุดไม่อยู่จริง ๆ นั่นคือ กระแสเนื้อเทียมนั่นเอง โดยเฉพาะในแทบภูมิภาคเอเชีย ส่อแวะจะกลายเป็นสนามรบที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรายต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีบริษัทสตาร์ตอัพหลากหลายแห่งผุดขึ้นในจีน เพื่อทำการผลิตเนื้อหมูเทียม โดยมีผู้เล่นหลักอย่าง “บียอนด์มีต” หันมาจับมือกับร้านอาหารในแผ่นดินใหญ่
ซึ่งล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศได้ออกมารายงานว่า มีผู้แปรรูปเนื้อหลายรายในญี่ปุ่นเริ่มขยับตัว เตรียมเข้าร่วมกระแสนี้ด้วยเช่นกัน นำโดย “เอ็นเอช ฟู๊ดส์” หนึ่งในผู้แปรรูป และจัดจำหน่ายเนื้อรายใหญ่ของญี่ปุ่น และยังมีแบรนด์ใหญ่อย่าง “นิปปอนแฮม” ออกมาประกาศเข้าร่วมศึกนี้ด้วยเช่นกัน
โดย “เอ็นเอช ฟู๊ดส์” ได้ออกมาเตรียมส่งไส้กรอก แฮม และเนื้อบดที่ผลิตจากถั่วเหลือง ออกมาลงสู่ตลาดในเดือน มี.ค.นี้ ภายใต้ชื่อ “เนทูมีต” เป็นจำนวน 5 SKU เช่น แฮมแพ็ก 6 ชิ้น ในราคา 217 เยน เป็นเงินไทยประมาณ 60 บาท พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านเยนในช่วง 1 ปีแรก
ญี่ปุ่นเข้าร่วมชิงตลาด กระแสเนื้อเทียม
ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในญี่ปุ่นต่างเริ่มพัฒนาสูตรเนื้อเทียม ให้เป็นสูตรของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น “อิโต้ แฮมฟู๊ดส์” ที่เตรียมเปิดตัวเนื้อเทียมอีก 8 SKU อาทิเช่น “ทงคัสสึ” หมูเทียมชุบแป้งทอด ซึ่งถูกออกวางขายในเดือน ก.พ. ด้านรายใหญ่อีกหนึ่งเจ้าคือ “มารุได” ที่มุ่งเน้นพัฒนาเพิ่มไลน์เนื้อเทียมที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมานี้แล้ว
ทั้งนี้ยังมีบริษัทการเงิน สัญชาติสวิส “ยูบีเอส” ออกมาระบุว่า ยอดขายเนื้อเทียมจากทั่วโลกจะสูงถึง 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 โดยเพิ่มจาก 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐจากปี 2561 ส่วนในของตลาดญี่ปุ่นนั้น บริษัทวิจัยอย่าง “มาร์เกตส์แอนด์มาร์เกตส์” ประเมินออกมาว่า จะมีมูลค่าเพิ่มกว่า 3 เท่าจาก 103 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2556 เป็น 308 ล้านเหรียญสหรัฐในสิ้นปี 2566 เนื่องจากความตื่นตัวในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้งของผู้บริโภค และนักลงทุน
ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนการแข่งขันก็ทวีความดุเดือดขึ้นไปอีก หลังจาก “อิมพอสซิเบิ้ลฟู๊ดส์” เป็นอีกหนึ่งรายใหญ่ในสหรัฐ ที่สามารถเพิ่มไลน์ในการอัพสินค้า สำหรับเจาะตลาดเอเชียได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อิมพอสซิเบิล พอร์ก” ทั้งเนื้อหมู และไส้กรอกหมูที่ได้จากโปรตืนพืช เพื่อปรับเปลี่ยนกับพฤติกรรมผู้บริโภคชาวเอเชียที่บริโภคเนื้อหมูเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากประเทศตะวันตก ที่นิยมทั้งเนื้อวัว เนื้อไก่ และปลาเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในประเทศจีนผู้บริโภคหมูเป็นรายหลักของโลก กำลังเผชิญกับโรคระบาดของหมู จึงต้องทำให้ทำลายหมูทิ้งเป็นจำนวนมาก จนทำให้เนื้อหมูขาดตลาด และนี่คือโอกาสที่ดี ที่ผู้ประกอบการจะเข้าทำตลาด