ในช่วงหยุดยาวนักขัตฤกษ์นี้ เชื่อว่าในหลาย ๆ ท่านอาจถือโอกาสนี้ เดินทางไปท่องเที่ยงรับอากาศเย็น ตามต่างจังหวัดต่าง ๆ โดยสถานที่ยอดนิยมของหลาย ๆ ท่าน เชื่อมั่นว่า ต้องมีอุทยานแห่งชาติต่างเข้าร่วมด้วยอยู่เป็นแน่ เพราะเนื่องจากว่า เป็นแหล่องท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ตามจุด “เช็คอิน” สำคัญต่าง ๆ จะมีผู้คนแห่ไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นจุดชมวิว ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางเส้นทางธรรมชาติ ที่สามารถมองออกไปสู่ทุ่งหญ้า แบบพาโนรามากันเลยทีเดียว
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น นักท่องเที่ยวหลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว จะหันหน้าไปชมวิวสวย ๆ ที่อยู่บริเวณนั้น และนั่นคือเวลาช่วงอาหารเช้าพอดี ส่งผลให้ผู้ดูแลสถานที่ ต้องออกมาตั้งมุมขายอาหารเล็ก ๆ เช่น ข้าวไข่เจียว เพื่อบริการผู้มาท่องเที่ยว โดยออกมาตั้งเจียวไข่กันตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า โดยไม่หยุดมือเลยทีเดียว ซึ่งใช้ไข่วันละ 4 – 5 ตั้ง ตั้งหนึ่งมีทั้ง 5 แผง 1 แผงมีทั้งหมด 30 ฟอง ในหนึ่งจานใช้ไฟ 2 ฟอง หากลองคำนวณดูเล่น ๆ แล้ว เป็นจำนวนหลายร้อยจานอยู่เหมือนกัน โดยเจ้าของร้านท่านเดิมได้ออกมาชี้แจง
ข้าวไข่เจียวนี้ โดยปรกติแล้วเพียงจานละ 30 บาทเท่านั้น แต่หากคุณได้ฝึกฝีมือ ปรับเปรียบรูปแบบเมนูไข่เจียว ให้มีความหลากลาย ก็จะสามารถทำเงินได้เร็ว แต่สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องหาจุดขายตัวเองให้เจอ เพื่อที่ไข่เจียวของคุณ ในจุดนักท่องเที่ยวนั้น แตกต่างไปจากคนอื่น นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในยามเช้า ชมวิวเสร็จแล้ว ต้องมีความหิวตามมา ฝีมือไม่ต้องจัดเจนมากนัก เน้นเพียงความแตกต่างของไข่เจียว ทำง่าย ลูกค้าทานสะดวก ราคาถูก เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถทำกำไรได้กับเมนูง่ายอย่าง “ไข่เจียว” ในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว ได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างที่เราบอกไปข้างต้นแล้ว อีกทั้งต้องขอย้ำอีกครั้งว่า คุณต้องหาจุดขาย “ไข่เจียว” ที่เป็นของตัวคุณเองให้เจอ หาความแปลกใหม่จากไข่เจียวธรรมดา ให้เป็นรูปแบบไข่เจียวเฉพาะคุณให้พบ ด้วยเมนูง่าย ๆ เพียงเท่านั้น
แม้เป็นเมนูง่าย ๆ ที่สิ้นคิด “ข้าวไข่เจียว” แต่คุณรู้ไหมว่า เมื่อเมนูนี้ อยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้น จัดได้ว่า เป็นเมนูยอดฮิตกันเลยทีเดียว เพราะอากาศเย็น ๆ ได้ข้าวร้อน ๆ ไข่เจียวหอม ๆ ในยามตอนชมวิวเรียบร้อยแล้ว แต่บรรยากาศยังไม่หมดไป ถือว่าเป็นเมนูยอดฮิต ทำงาน ทานง่าย ท่ามกล่างหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถหาอาหารจากไหนได้