ถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ของวงจรมนุษย์เงินเดือน เพราะนอกจากจะต้องเต็มที่กับงานประจำทั้งอาทิตย์ แต่อีกหลายคนคงยังต้องหาเวลารับงานฟรีแลนซ์เพิ่มเติม เพื่อให้รายได้ในกระเป๋านั้น เพิ่มพูนขึ้น แต่จะบริหารเวลาอย่างไร เพื่อที่จะจัดสมดุลระหว่างงานประจำ กับงานฟรีแลนซ์ โดยไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกัน เพราะจะให้ส่งผลกระทบต่องานทั้งคู่ ไม่ได้เลย จากนี้เรามาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่เราควรต้องจัดการ
1. เวลาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
เป็นที่แน่นอนว่า งานประจำของคุณนั้น จะมีตารางเวลาการทำงานที่แน่นอน แต่หากคุณรับงานฟรีแลนซ์แล้วนั้น การเรียงลำคับความสำคัญของงาน จึงมีความสำคัญมาก และสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถจับมายึดได้ก็คือ เรื่องของเวลางานแต่ละชิ้นนั้น คุณต้องวางตารางงานให้ชัดเจน
2. รับงานแต่พอกำลัง อย่ามากจนเกินไป
เพราะคุณมีรายได้จากงานประจำอยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อคุณมีงานฟรีแลนซ์เข้ามา นั่นหมายความว่า รายได้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย แต่ขอเตือนไว้อย่างว่า อย่าโลภมากจนเกินไป เพราะในการรับงานฟรีแลนซ์มาเยอะ ๆ นั้น คุณต้องระลึกไว้อยู่เสมอว่า หากคุณรับงานมากเกินไป แล้วไม่สามารถเสร็จทันตามกำหนดลูกค้าได้ หายนะจะมาเยือนคุณทันที และเมื่อนั้นทุกอย่างจะพังลงได้ ดังนั้นจึงควรท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า อย่าโลภ รับงานมากจนเกินไป
3. ติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล์เท่านั้น
ไม่เถียงว่า ในปัจจุบันนี้การสื่อสารทางโทรศัพท์ เป็นการสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ในบางครั้ง การสื่อสารกับลูกค้า ควรที่จะเป็นการสื่อสารทางอีเมล์ จะเป็นการดีกว่า เพราะว่า หนึ่งจะช่วยเซฟเวลาให้คุณไปได้มาก สอง การสื่อสารทางเมล์ จะถือเป็นหลักฐานในการเจรจาได้ดี อีกทั้งคุณยังสามารถตรวจเช็คทบทวนได้ตลอดเวลาอีกด้วย ว่าคุณและลูกค้า เคยคุยกันไว้อย่างไรบ้าง
4. ทำงานช่วงหยุดสุดสัปดาห์บ้าง
คุณเคยต้องผ่านช่วงเวลามหาวิทยาลัยมาบ้างแล้ว จำได้ไหมว่า ตลอดทั้งอาทิตย์คุณไม่มีโอกาสที่จะไปไหนมานัก นอกจากเรียน ๆ ทำรายงาน ๆ เช่นเดียวกัน คุณอาจทำอะไรได้มากขึ้น ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็คือช่วงเวลาที่คุณต้องทำงานเช่นกัน เพราะอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมดุลแล้วกับงานฟรีแลนซ์ และควรจะจัดสรรเวลาผักผ่อนให้ลงตัวด้วย เพื่อความสมดุลในชีวิตของคุณ
5. สรุปส่งท้าย
จากข้อความข้างต้น คุณคงรู้บ้างแล้วว่า งานฟรีแลนซ์นั้น นอกจากจะทำรายได้เพิ่มให้กับคุณ แต่อีกด้านหนึ่ง งานฟรีแลนซ์ก็จะมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับคุณด้วย คุณจะได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่หลากหลายกว่างานประจำ แต่สิ่งที่คุณลืมไปไม่ได้เลยนั้นคือ การที่คุณต้องทำงานหนักนั้น คือการหาความมั่นคงให้กับชีวิต ดังนั้นควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าใช้ชีวิตตามเงินที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋า
