จากมลภาวะ PM 2.5 ที่เกิดมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เป็นปัญหาทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นในหลาย ๆ แบรนด์ จึงออกมาขับเคลื่อนเรื่องสินค้ามือสองกันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากว่า การ Reuse หรือการนำกลับมาใช้ใหม่นั้น เป็นอีกหนึ่งกระบวนการ ที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถปั้นแบรนด์รักษ์โลกได้อีกด้วย
โดยแนวโน้มที่แบรนด์ต่าง ๆ จะเริ่มขยายธุรกิจไปสู่ตลาดมือสองนั้นคือ แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่เปิดร้านค้าในรูปแบบป๊อปอัพสโตร์ ซึ่งจะจำหน่าย และรับซื้อสินค้ามือสองโดยเฉพาะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ธุรกิจประเภทนี้ ได้เคยเปิดตัวมาแล้วเมื่อปี 2560 เพื่อจำหน่ายสินค้ามือสอง ในกลุ่มเสื้อผ้า และล่าสุดได้มีการเปิดตัวในรูปแบบ ป๊อปอัพสโตร์ ที่ โคโลราโด เป็นที่แรก เพื่อเป็นการรองรับสินค้าตลาดมือสองได้อย่างเต็มที่
สำหรับในแบรนด์เสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา ที่มีนโยบายรักษ์โลกเป็นหลัก โดยกระบวนการผลิตเหล่านี้ จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลักด้วยเช่นกัน อาทิเช่น สินค้าที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 60% เป็นหลัก และเมื่อหมดอายุการใช้งาน จะสามาถนำกลับมารีไซเคิล เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ได้
ขยะมาจากเสื้อผ้า
นอกจากนี้ยังมี Lavell Virtual Stores ได้เปิดธุรกิจอีคอมเมิร์ซสินค้ามือสอง ภายใต้แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส โดยการเปิดให้ผู้ขายสามารถนำสินค้ามาจำหน่ายได้ มีระบบจัดการสินค้าที่ใช้งานง่าย และไม่ใช่มีแต่เพียงแบรนด์ใหม่ ๆ ที่ดาหน้ากันเข้ามาเปิดทั้งอีคอมเมิร์ซ และ ป๊อป อัพ สโตร์เท่านั้น แต่ในตลาดสินค้ามือสองยังมีผู้ขายออนไลน์อย่าง Facebook Market หรือ eBay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ในระดับแนวหน้าของตลาดมือสอง เรียกได้ว่า ตลาดนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถผูกกับกระแสรักษ์โลกได้อีกด้วย
โดยสรุปแล้วนั้น มีคนจำนวนมากที่ยังไม่รู้ว่า เสื้อผ้าคืออีกสิ่งหนึ่ง ที่เป็นขยะล้นโลก เนื่องจากว่ากระแสแฟชั่นที่มาเร็ว และไปเร็ว จึงทำให้สาว ๆ ที่หลงใหลในการแต่งตัว คลั่งคอลเลกชั่นมาเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การที่แบรนด์ต่าง ๆ ออกมาเปิดช่องทางทั้งร้านค้าปลีก และช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นตลาดสินค้ามือสอง ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการในการ Reuse หรือนำกลับมาใช้ซ้ำใหม่ได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องขยะจากเสื้อผ้า นอกจากแบรนด์จะได้ยอดขายแล้ว ขณะเดียวกัน ยังได้สร้างภาพลักษณ์ให้เป็นแบรนด์รักษ์โลกได้อีกด้วย