งานฝีมืออย่างการปั้นดินไทย-ดินญี่ปุ่น ให้เป็นชิ้นงานจำลอง เป็นโมเดลของจิ๋วรูปแบบต่าง ๆ ยังคงเป็นชิ้นงานที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเสมอ ขอแค่มีไอเดียสร้างงานให้ออกมาดูน่ารักสวยงาม มีเอกลักษณ์ ก็ยังเป็นชิ้นงานที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเจ้าของผู้ที่ทำได้อยู่เรื่อย ๆ เหมือน “หญิง-ชำมะนาด อวยสวัสดิ์” ปั้นดินเป็น “โมเดล อาหาร” แล้วนำไปทำเป็น “เครื่องประดับ” ต่าง ๆ อาทิ ตุ้มหู, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, แหวน, กิ๊บติดผม และยังทำเป็นสินค้าประเภทอื่น ๆ อีกหลากหลาย จนกลายเป็นสินค้าที่โดนใจลูกค้า สามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” สร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี…ซึ่งวันนี้ทีมงานคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ…
หญิง-ชำมะนาด อวยสวัสดิ์ เจ้าของงานปั้นดินเป็นโมเดลอาหาร แล้วต่อยอดทำเป็นสินค้าประเภทเครื่องประดับต่าง ๆ รวมถึงสินค้าประเภทอื่น ๆ อาทิ พวงกุญแจ, เคสมือถือ, แม็กเน็ตติดตู้เย็น ขายภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “ญ.โสภา Handmade” เล่าว่า…เป็นคนชื่นชอบงานปั้นดินเป็นของจิ๋วมานานแล้ว ครั้งแรกที่ได้เห็นงานฝีมือประเภทนี้ก็ตอนไปเดินเล่นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร พอได้เห็นงานปั้นของจิ๋วก็ยิ่งทำให้มีความชอบมากขึ้น และเกิดความสนใจที่อยากจะทำขึ้นมาเองบ้าง จึงตัดสินใจไปลงเรียนการปั้นดินที่ศูนย์ฝึกอาชีพของกรุงเทพฯ ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ด้วยความชอบเลยเรียนไปเรื่อย ๆ อยู่ประมาณ 2 ปี
ตอนนั้นยังไม่ได้คิดที่จะมายึดทำขายเป็นอาชีพอย่างจริงจัง จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยออกมาก็ทำงานเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ชอบทำงานประจำ จึงทำอยู่ได้ไม่นานก็ตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ทั้งเปิดร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ลองผิดลองถูกกับอาชีพมาเรื่อยก็ยังไม่เจอกับอาชีพที่ตัวเองชอบ จนมีอยู่วันหนึ่งก็ได้ลองนำงานปั้นจิ๋วที่เคยทำไว้ตอนที่ไปเรียนมาลงหน้าเพจเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีเพื่อน ๆ เข้ามาให้ความชื่นชอบกันเป็นจำนวนมาก เลยทำให้รู้สึกว่าน่าจะเป็นชิ้นงานที่ได้รับความสนใจจึงคิดที่จะลองทำขายดู
“พอมีความคิดที่ต้องการจะทำงานปั้นดินเป็นของจิ๋วขาย ก็เริ่มมาคิดแบบงานว่าจะปั้นเป็นรูปแบบไหน จนได้มาลงตัวที่งานโมเดลอาหาร เพราะมองว่าเป็นงานที่ดูแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร จากนั้นก็มาคิดอีกว่าจะสามารถนำงานปั้นจิ๋วมาทำเป็นสินค้าอะไรได้บ้าง เพื่อให้มีสินค้าที่หลากหลาย จนมาลงตัวที่สินค้าพวกเครื่องประดับ อย่าง ตุ้มหู กิ๊บติดผม สร้อย และสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่าง เคสมือถือ พวงกุญแจ เป็นต้น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทุกเพศทุก วัย หลังจากที่ทำชิ้นงานออกมาขายก็ได้รับการตอบรับดี ก็เลยมาเปิดเพจเฟซบุ๊กลงขายงานปั้นจิ๋วโดยเฉพาะและทำขายมาจนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 8-9 เดือนแล้ว” เจ้าของชิ้นงานกล่าว
งานปั้นดินเป็นอาหารนั้น ถ้าต้องการจะปั้นเป็นอาหารอะไรชนิดไหนก็จะใช้วิธีเปิดดูรูปอาหารชนิดนั้นแล้วปั้นตามแบบ โดยเน้นการแกะแบบ แกะสีจากรูปหรือไม่ก็อาหารของจริง เน้นความละเอียดประณีตเพื่อปั้นออกมาให้มีความเหมือน หรือใกล้เคียงของจริงที่สุด ทำให้ชิ้นงานที่ปั้นมีความน่าสนใจ มีความโดดเด่นแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร…เจ้าของชิ้นงานบอกถึงจุดเด่นของสินค้างานปั้นจิ๋วโมเดลอาหารที่ทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้า
ทุนเบื้องต้น
ใช้เงินลงทุนประมาณ 500-1,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็น ทุนวัสดุ อยู่ที่ประมาณ 40% จากราคา ราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 20-1,000 บาทขึ้นไป ซึ่งราคาขายนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทของชิ้นงาน รวมถึงความยากง่ายของชิ้นงาน โดยลูกค้าสามารถสั่งปั้นตามแบบที่ต้องการได้
สินค้าของร้านนี้มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ ตุ้มหู, กิ๊บติดผม, แหวน, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, แม็กเน็ต, พวงกุญแจ, เคสมือถือ, นาฬิกา, กรอบรูป เป็นต้น
วัสดุอุปกรณ์
ที่จำเป็น หลัก ๆ ประกอบด้วย… ดินไทยหรือดินญี่ปุ่น, สีอะคริลิกหรือสีช็อก, วาสลีน (ไว้ทาไม่ให้ดินติด), คีม, กาว, กรรไกร, คัตเตอร์, พู่กัน นอกจากนั้นก็เป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ พวก ห่วงพวงกุญแจ, แม่เหล็ก, แป้นตุ้มหู, สร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, เคสมือถือ เป็นต้น…วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสามารถหาซื้อได้จากร้านงานฝีมือทั่ว ๆ ไป
ขั้นตอนการทำ “ตุ้มหูโมเดลอาหาร”
เริ่มจากเตรียมหาแบบที่ต้องการจะปั้นก่อน อย่างถ้าจะปั้นเป็น “หมูปิ้ง” ก็หาแบบมาแล้วจากนั้นก็ทำการเตรียมดิน โดยนำดินไทยหรือดินญี่ปุ่นมาทำการผสมสีให้ได้ตามแบบอาหารที่จะปั้นก่อน เพราะดินที่ใช้ปั้นงานนั้นจะมาเป็นสีขาว การผสมสีดินไม่ยากให้ใช้สีอะคริลิกหรือสีช็อกเทใส่ผสมลงในดินแล้วทำการนวดให้สีเข้าเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อดิน พอสีเข้ากันดีกับดินแล้ว ให้ผึ่งลมสักพัก แล้วก็ให้นำดินมานวดซ้ำอีกรอบให้ดินเซตตัวไม่ให้ดินเหลวหรือแข็งไป นวดให้ดินนุ่มกำลังดีจะทำให้ปั้นง่ายขึ้น
เมื่อผสมสีดินเสร็จแล้วก็มาถึงขั้นตอนการปั้นขึ้นรูปตามแบบได้เลย หลังจากที่ปั้นดินเรียบร้อยตามแบบเสร็จแล้ว ก็มาทำการเก็บรายละเอียดให้ชิ้นงานนั้นเหมือนจริงที่สุด โดยใช้พู่กันมาตกแต่งระบายสีตกแต่งเพิ่มเติม อย่างที่ทำหมูปิ้ง ก็ต้องระบายสีให้เหมือนรอยไหม้ของหมูปิ้งเพิ่มเข้าไป หลังจากตกแต่งเก็บรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยดีแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้รอให้สีและดินแห้ง ก็จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน
หลังจากชิ้นงานที่ปั้นไว้แห้งสนิทดีแล้วก็ให้นำมาทาเคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บแบบใส หรือน้ำยาเคลือบเงา เพื่อให้งานมีความเงาและมีความเหมือนมากขึ้น (ถ้าเป็นงานปั้นชิ้นงานแบบที่มีน้ำเป็นส่วนผสม เช่น ปั้นงานก๋วยเตี๋ยว ก็ให้ใช้เรซิ่นผสมสีแล้วเทลงในชิ้นงาน เพื่อทำเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยว ก็จะทำให้ชิ้นงานนั้นมีความสมจริง) จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้รอน้ำยาเคลือบแห้งสนิทดีแล้วก็นำไปติดใส่แป้นตุ้มหู เท่านี้เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ
“การปั้นของจิ๋วนี้เป็นงานฝีมือที่ทำไม่ยาก แค่ต้องมีความชอบเพราะเป็นงานปั้นที่ต้องอาศัยความอดทนและความละเอียดค่อนข้างสูงเพื่อให้งานออกมาสวย ส่วนเรื่องของฝีมือการปั้นให้เหมือนกับสิ่งของที่จะปั้นนั้น สามารถฝึกหัดทำได้ไม่ยาก พยายามฝึกฝนบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดความชำนาญ และเก่งขึ้นมาเอง” เจ้าของชิ้นงานแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจทำงานประเภทนี้
สนใจชิ้นงาน “เครื่องประดับงานปั้นจิ๋ว” และสินค้าอื่น ๆ ที่ปั้นเป็น “โมเดลอาหาร” ของ หญิง-ชำมะนาด สามารถไปชมสินค้าและสั่งซื้อได้ทางเฟซบุ๊ก : ญ.โสภา Handmade หรือทางอินสตาแกรม : handmade thaismile และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานแฮนด์เมดฝีมือการปั้นดินที่มีไอเดีย สร้างสรรค์เป็นชิ้นงานที่มีเอกลักษณ์ที่สามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ทำเงินได้อย่างดี.
…………………………………………………………..
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
เครดิต https://www.dailynews.co.th/article/761248