วันนี้ (วันที่ 5 มีนาคม 2563) เมื่อเวลา 11.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ หลังรับฟังการนำเสนอโครงการ “แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออก” ของนักศึกษากลุ่มพอเพียง (The master รุ่น5) ISAB ที่ห้อง AUDITORIUM อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี ว่า
แนวคิดของนักศึกษาเป็นไปในทางเดียวกับที่กระทรวงพาณิชย์ ที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของการส่งออก ทั้งในเรื่องของการเปิดตลาดต่างๆสอดคล้องกันกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดทิศทางการส่งออกไว้ชัดเจนว่าเราจะไปเปิดตลาดให้ 18 ประเทศ จัดทริปทั้งหมด 16 ทริป แต่เกิดปัญหาเรื่อง COVID-19 จึงอาจจะเลื่อนไปบางส่วน เช่น ทริปที่จะไปแอฟริกาใต้ ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ต้องเลื่อนออกไปเพราะแอฟริกาใต้ไม่สะดวก จึงต้องเลื่อนไป อาจจะกระทบทริปที่จะไปจีนวันที่ 22 เมษายนหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ ที่จะไปเปิดเทศกาลผลไม้ที่หนานหนิง
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับกลยุทธ์มาเป็นการใช้อีคอมเมิร์ซ การค้าออนไลน์มากขึ้น การเจรจาทางธุรกิจในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องเดินทางไปพบปะกัน เราใช้ในรูปแบบของออนไลน์
“เมื่อวานนี้การจัดจับคู่ธุรกิจผู้นำเข้าของไทยกับ 13 ประเทศ 45 บริษัท กับผู้ประกอบการไทย 70 บริษัท เริ่มใช้ระบบ conference การค้าออนไลน์ เจรจาจับคู่กันทำให้สามารถลงนามซื้อขายกันได้ถึง 1,500 ล้านบาท” นายจุรินทร์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า การเปิดโอกาสให้สินค้าและบริการที่มีศักยภาพ แม้จะไม่ถึงกับเป็นเลิศแต่เป็นเอสเอ็มอี โอทอป นักธุรกิจท้องถิ่นที่มีศักยภาพที่พัฒนามาระดับหนึ่งจะนำไปช่วยเปิดตลาด CLMMV ตลาดเพื่อนบ้านนั้น กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่าจะช่วยให้เขามีที่ยืนเวลาไปจัดแสดงสินค้า เช่น จาก 200 บูธก็เปิดโอกาสเขา 10 – 20 บูธ และอบรมให้เขามีความรู้เรื่องการส่งออก
ส่วนในเรื่องของการจัดให้มีแพลตฟอร์ม การทำให้เขาทำการค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น รัฐบาลจะสนับสนุนแม้ว่าคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะเป็นผู้เริ่มต้นอันนั้นก็จะเป็นตัวแบบที่จะพัฒนาต่อไป รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนให้เชื่อมกับ National Single Window ของรัฐบาลต่อไป และเชื่อมกับ ASEAN Single Windowในที่สุดซึ่ง ASEAN Single Window เริ่มบังคับใช้แล้วทั้ง 10 ประเทศ
“การทำ ASEAN Single Window คือต่อไปนี้สินค้าที่เราส่งข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนไม่ต้องตรวจซ้ำซ้อน ตรวจที่ประเทศใดประเทศหนึ่งที่เดียว เอกสารใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องรอเอกสารที่ใช้เวลานาน จะคล่องตัวขึ้นมูลค่าการค้าระหว่างกันจะดีขึ้นตัวเลขการค้าก็จะเพิ่มขึ้น” รมว.พาณิชย์ กล่าว