“พรีเมียร์ แทงค์” PTC เตรียมขาย IPO 110 ล้านหุ้น ไตรมาสแรกปีนี้ พร้อมแผนขยายตลาดหาลูกค้าในกลุ่มสถานีบริการน้ำมันรายใหม่ เพิ่มจาก OR เสริมความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้กับประเทศ ชี้พื้นที่อีสานเชื่อมชายแดน มีศักยภาพ มีความต้องการน้ำมันสูง มอง EV ในไทยยังใช้เวลาอีกนาน
วันที่ 19 มกราคม 2565 นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรับ เก็บ ผสม และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินและขีดความสามารถขยายธุรกิจ เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงให้กับประเทศ มุ่งสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เสริมความเชื่อมโยงด้านระบบการขนส่งพลังงาน เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ PTC มีวิสัยทัศน์เป็นห่วงโซ่คุณค่า ที่มั่นคงแข็งแกร่งในระบบพลังงานของประเทศ บนหลักการบริหารแบบยั่งยืนและใส่ใจ เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นหนึ่งในใจลูกค้า ผ่านการเชื่อมโยงการส่งมอบพลังงานสู่ภูมิภาค ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสูง โดยมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน คือ
1.การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายน้ำมัน รองรับวิธีการขนส่งน้ำมันที่หลากหลาย และเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ
2.มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงานเพื่อให้ทุกพื้นที่ มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน
และ 3.สร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ และพันธกิจ เพื่อกระจายฐานรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
“เรามุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์โดยการทำงานร่วมกัน (Synergistic Strategic Alliance) กับทั้งลูกค้า คู่ค้า รวมถึงผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน โดยมีจุดมุ่งหมายการทำธุรกิจให้เจริญเติบโตร่วมกันจากการแบ่งปันความรู้ความสามารถ การแบ่งและบริหารความเสี่ยงต่อองค์กร และนวัตกรรมต่างๆ จากพันธมิตรของบริษัท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลักในการเชื่อมโยงระบบการขนส่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูงสุด”
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนขยายตลาดเพื่อแสวงหาลูกค้าในกลุ่มสถานีบริการน้ำมันรายใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยใช้บริการรับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ หรือเข้ามารับในปริมาณไม่มาก เพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียลูกค้าและสร้างการเติบโตในอนาคต
โดยปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าหลักรายเดียวคือบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ
OR จึงมีความเสี่ยงหลัก อาทิ การพึ่งพิงลูกค้าที่เป็นผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่รายเดียว ซึ่ง
OR มีสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบ Dealer Owned Dealer Operated (DODO)ค่อนข้างมาก
แต่ทั้งนี้ PTG มีคลังน้ำมันกระจายอยู่ในทุกพื้นที่น่าจะยังไม่มีความเสี่ยงที่ไม่มากนักในระยะนี้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี คลังขอนแก่น มีระยะสัญญา 10 ปี และคลังศรีสะเกษ มีระยะสัญญา 3 ปี
อย่างไรก็ดี ยังมองโอกาสในอนาคตในเรื่องปริมาณการใช้น้ำมันภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสานยังเติบโตขึ้น และเป็นโอกาสการลงทุนโครงการใหม่ๆ ซึ่งเป้าหมาย3-5ปีข้างหน้าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายน้ำมัน ส่งมอบพลังงานให้เท่าเทียม พร้อมสำหรับการลงทุนเพิ่ม ตากที่ตั้งเป้า3ปี เติบโต50%
ส่วนความต้องการการใช้น้ำมันจะลดลงหรือไม่นั้นมองว่ายังไม่มีการใช้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะมีนโยบาย EV แต่เชื่อว่าน่าจะยังต้องใช้เวลาอีกนาน ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับสูง สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ ต่อการสร้างฐานการผลิต EV ในประเทศยังไม่ชัดเจน
“ส่วนกระแสสิ่งแวดล้อม บริษัทมุ่งเน้นให้ความสำคัญ ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มีทั้งลงทุนลดการระเหยน้ำมัน และเรามีจุดแข็งคือโลเคชั่น ส่วนเป้ารายได้ ยังไม่สามารถตอบได้ แต่สามารถดูจากอดีตมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากรายได้หลักคือค่าบริการการจ่ายน้ำมัน ที่สำคัญ ภาคอีสาน ภาพรวมมีการเติบโต ซึ่งภาคอีสานเชื่อมการเติบโตภาคเกษตร มีศักยภาพ ประกอบกับเป็นทางผ่านไปยังเพื่อนบ้าน ค้าชายแดนก็น่าจะเป็นอานิสงส์ธุรกิจต่อไปด้วย”
ด้านนางสาวพัทธยา โง้วสกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน ทั้งคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่น (“คลังขอนแก่น”) และคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ (“คลังศรีสะเกษ”) และมีบริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามที่ลูกค้าต้องการ บริการได้ครอบคลุมทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน-ล่าง
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบธุรกิจ 166.29 ล้านบาท ลดลง 11.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงตามยอดจำหน่ายน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีโรงงานบางส่วนหยุดการผลิต ทำให้การเดินทางโดยรถยนต์ลดลง ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 72.23 ล้านบาทลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.98%
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นเป็น 43.33% สูงกว่างวด 9 เดือนแรกของปี 2563 เนื่องจากสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่นางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท
โดยภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะนำ PTC จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาสแรกปีนี้
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance