ยอดขายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกลด แต่การล็อกดาวน์จากโควิด-19 เป็นโอกาสทำยอดขาย
วันนี้ (26 เม.ย. 2563) การ์ทเนอร์ เผยรายงานตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือพีซี ในไตรมาสแรกปี 2020 พบว่า ภาพรวมยอดขายทั่วโลก มีจำนวนอยู่ที่ 51.6 ล้านยูนิต ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2019 โดยยอดขายของตลาดพีซีทั่วโลก ลดลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2013 หลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้
นางมิคาโกะ คิตากาวะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 คือปัจจัยเดียวที่ส่งผลกระทบต่อการทรุดตัวของตลาดพีซีมากที่สุด ทำให้ทั้งอุปสงค์และอุปทานของตลาดพีซีหยุดชะงัก หลังจากประเทศจีนเริ่มต้นมาตรการล็อกดาวน์เมื่อปลายเดือนมกราคม ปริมาณการผลิตพีซีก็ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ และได้กลายเป็นความท้าทายด้านการขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อการล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 แพร่กระจายนั้นขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ได้เกิดความต้องการพีซีในรูปแบบใหม่อย่างฉับพลัน ทั้งเพื่อรองรับการทำงานระยะไกล และเรียนผ่านระบบออนไลน์ ที่ผู้ผลิตพีซีคาดไม่ถึงมาก่อน
ผลประกอบการของผู้ผลิตพีซีไตรมาสนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้จ่ายด้านพีซีมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ประกอบกับการสิ้นสุดในการอัปเกรดสูงสุดที่วินโดวส์ 10 ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องโยกงบประมาณด้านไอทีจากพีซีไปใช้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด เราจะเริ่มเห็นผู้ประกอบการและผู้บริโภคยืดอายุการใช้งานพีซีให้ยาวนานมากขึ้น เนื่องจากพวกเขามุ่งเน้นที่ไปการเก็บรักษาเงินสด” นางคิตากาวะกล่าว แม้จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ส่วนแบ่งการตลาดของผู้ผลิตพีซีสามอันดับแรกก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นจาก 60% ในไตรมาสแรกปี 2019 เป็น 65.6% ในไตรมาสแรกของปี 2020
เดลล์ และ เอชพี อิงค์ สลับตำแหน่งกันในเรื่องของยอดขายพีซีในตลาดอเมริกา โดยเดลล์ครองส่วนแบ่งการตลาดเกินกว่า 31%
แม้ว่า เลอโนโว ครองตำแหน่งที่ 1 ในตลาดพีซีทั่วโลก แต่มียอดขายสินค้าลดลง 3.2% ในไตรมาสแรกของปี 2020 และ 22.6% เทียบปีต่อปีในเอเชียแปซิฟิก ในไตรมาสแรก เอชพี อิงค์ มีความท้าทายจากยอดขายพีซีที่ลดลง 12.1% หลังจากเติบโตติดต่อกันสามไตรมาส โดยบันทึกยอดขายสินค้าลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในทุกภูมิภาคที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดในการตีตลาดพีซีแบบตั้งโต๊ะในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เดลล์เป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มียอดขายเติบโตเมื่อเทียบปีต่อปีเพิ่มขึ้น 2.2% โดยในไตรมาสแรกของปี 2020 เดลล์มียอดขายเติบโตขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกาที่ยังมีความต้องการพีซีของเดลล์คงที่ตลอดจนถึงเดือนมีนาคม และในไตรมาสแรกของปี 2020 ยังถือเป็นไตรมาสที่เก้าติดต่อกันที่เดลล์มียอดขายเติบโต
เมื่อมาพิจารณายอดขายพีซีในแต่ละภูมิภาค พบว่ามีความแตกต่างกันสืบเนื่องมาจากมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจากภาครัฐ โดยไวรัสสร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในตลาดอเมริกาช่วงไตรมาสแรกปี 2020 โดยตลาดพีซีของอเมริกามีอัตราเติบโตเล็กน้อยเพียง 0.8% อย่างไรก็ตามยอดขายพีซีหล่นฮวบถึง 30.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ตั้งแต่การ์ทเนอร์เริ่มเก็บข้อมูลตลาดพีซี ปีนี้เอเชียแปซิฟิกมีตัวเลขการลดลงต่ำที่สุดที่ 27.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตั้งแต่การเกิด COVID-19 ในประเทศจีน ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของการลดลงนี้ อันเนื่องมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรธุรกิจ ภาครัฐ และผู้บริโภค ถูกระงับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ การส่งมอบพีซีในประเทศจีนตกลงมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน เดสก์ท็อปพีซีที่เป็นสินค้าหลักของกลุ่มลูกค้าภาครัฐและภาคการศึกษาต้องพบกับตัวเลขที่ต่ำลงมากที่สุดเกือบ 40% โดยโมบายล์พีซี เช่น โน้ตบุ๊กลดลงน้อยกว่า 20% อันเนื่องมาจากความต้องการของฝั่งพนักงานและนักเรียนที่มีความจำเป็นต้องใช้งานเพื่อทำงานหรือเรียนจากบ้าน
ยอดขายพีซียุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ลดลง 7% เหลือ 16.8 ล้านยูนิต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี ในไตรมาสแรกการซื้อพีซีทั้งจากตลาดธุรกิจและตลาดคอนซูมเมอร์ลดลงอย่างฮวบฮาบ อันเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มข้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของหลายประเทศในภูมิภาคนี้
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้รวมพีซีแบบตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊กพีซี และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กระดับพรีเมียมขนาดพกพา เช่น (ไมโครซอฟท์ เซอร์เฟซ) แต่ไม่รวมโครมบุ๊กและไอแพด ข้อมูลทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของการประมาณการเบื้องต้น การประมาณการขั้นสุดท้ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง สถิติจะขึ้นอยู่กับการจัดส่งสินค้าทางช่องทาง ตัวเลขต้องไม่เกินจำนวนที่แสดงเนื่องจากการปัดเศษ ที่มา: การ์ทเนอร์ (เมษายน 2020).