ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 ตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมานี้ ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้กระจายไปอยู่ทั่วประเทศแล้ว สถานที่สุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ถูกปิดให้บริการชั่วคราวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ประชาชนต่างเก็บตัวอยู่ในแต่บ้าน จึงกลายเป็นโอกาสของอาชีพจำพวก ดีลิเวอรี่, รถขายกับข้าว หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า รถพุ่มพวง ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้ไปสอบถามหนุ่มพ่อค้ารถกับข้าว ที่ยึดอาชีพนี้มานานกว่า 10 ปี โดยเขาได้ระบุว่า ในช่วงเดือนหลังมานี้ มียอดขายดีขึ้นมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อของไปตุนกัน เช่น ผัก และหมู ที่ช่วงนี้มีราคาถูก
โดยเขาได้ออกรถตั้งแต่ตีห้า วิ่งไปตามเส้นทาง อยุธยา บางปะอิน เสนา และบางบอน ซึ่งจะขายหมดเกลี้ยงในเวลาประมาณเที่ยงกว่า ๆ ลูกค้าโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น จะเป็นลูกค้าขาประจำมาอุดหนุน และในช่วงนี้โควิค-19 ระบาดมานี้ เขาขายได้กำไรถึงวันละ 2,500 – 3,000 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะการค้าขายนั้น มีขึ้นก็ต้องมีลง
ในส่วนของการป้องกันตัวช่วงไวรัสโควิค-19 ระบาดนั้น เขาได้เผยว่า ตัวเขาเองนั้นมีหน้าที่เป็นคน จึงไม่ได้ค่อยสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง จึงไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไร แต่จะเป็นภรรยาเขาเสียมากกว่า ที่ต้องสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง แต่เขาก็ให้ภรรยาของเขาใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา จึงแทบไม่ค่อยได้คุยกับลูกค้าเลย เนื่องจากการใส่แมสก์ไว้ที่ปากนั้น ทำให้คุยลำบากมากกว่าเดิม และทุกครั้งที่รับของจากลูกค้า คิดเงินทอนเงินให้ลูกค้าเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เขายังมีน้ำยาแอลกอฮอล์ไว้ให้ภรรยาเช็ดมืออยู่ตลอดเวลา เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าโควิค-19 คือ การไม่มีรายได้ ขายของไม่ได้ ยอดไม่ขึ้น
ในส่วนรูปแบบการซื้อมาขายไปนั้น พ่อค้ายกตัวอย่างว่า หากเป็นผักสด จะซื้อมาเป็นกิโลกรัม จากนั้นจะนำมาแบ่งเป็นกำ ๆ โดยขายกำละ 10 – 20 บาท เพื่อให้ซื้อง่ายขายคล่อง ซึ่งผัก 1 กิโลกรัม แบ่งเป็นกำได้ประมาณ 10 กำ ในส่วนของเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว หมู กุ้ง ปลาหมึก และหมู จะได้กำไรไม่เยอะมากนั้น โดยจะได้กำไรเพียง 20 – 30 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และหากขายสินค้าไม่หมด ถ้าเป็นผัก จะนำมาเด็ดใบเหลือง ๆ ออกทิ้งเสีย จากนั้นจะนำมาขายซ้ำในวันถัดไป ส่วนผักที่ขายดี จะเป็นจำพวก กวางตุ้ง มะเขือเปราะ คะน้า มะเขือยาว แตงกว่า ผักกาดขาว มะเขือเทศ พริก และมะนาว ในส่วนของเนื้อสัตว์นั้น เนื้อหมูจะขายดีกว่าเนื้อไก่ เนื่องจากลูกค้าจะนิยมบริโภคเนื้อหมูมากกว่า