(1 พ.ค. 64) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการควบคุมตัว น.ส.กรรณิการ์ คูละโคตร์ อายุ 36 ปี ชาว ม.9 อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา ทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาล และใช้พันธบัตรรัฐบาลปลอม และฉ้อโกง พร้อมของกลาง
ประกอบด้วย บัตรเอทีเอ็มจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีธนาคารหลายธนาคาร สลากกินแบ่งรัฐบาลกว่า 10 ชุด ธนบัตรปลอมชนิดละ 500 บาท จำนวน 10 ใบ และธนบัตรจริงชนิดละ 500 ท ซึ่งเป็นธนบัตรต้นแบบในการคัดลอก 1 ใบ ธนบัตรชนิดละ 1,000 บาทปลอมอีก 1 ใบ มาทำการสอบสวน หลังก่อเหตุใช้ธนบัตรปลอมชนิดละ 500 บาท หลอกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับนาย ชุ่ม ทูลขุนทด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/112 หมู่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งพิการตั้งแต่กำเนิด พร้อมกับขอแลกเงินธนบัตรจากพ่อค้าสลากฯ ได้เงินสดซึ่งเป็นเงินจริงจากพ่อค้าสลากฯไปจำนวน 3,420 บาท และหลบหนีไปอย่างลอยนวล ซึ่งผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมตัวได้ขณะกำลังจะขึ้นรถที่ บ.ข.ส.เพื่อกลับบ้านในพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า ภายหลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่กระทั่งทราบเบาะแสของผู้ก่อเหตุว่าทำงานที่ร้านซ่อมรถแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จึงติดตามพฤติกรรมและความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหา จนกระทั่งหลังเลิกงานผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาที่ บ.ข.ส.เพื่อจะเดินทางกลับ อ.บ้านฝาง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว พร้อมนำหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นในข้อหาดังกล่าวแสดงต่อผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพตลอดทุดข้กล่าวหา
“จากการตรวจค้นพบธนบัตรปลอมทั้งชนิดละ 500 บาท และ 1,000 บาท อยู่ในกระเป๋า ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง ในเขตรับผิดขอบของ สภ.เมืองขอนแก่น โดยพฤติการณ์จะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุและคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะนำธนบัตรปลอมมาหลอกซื้อของเพื่อเอาเงินทอนจากเหยื่อรายต่างๆไป โดยเฉพาะรายล่าสุดซึ่งเป็นพ่อค้าสลากฯและมีความผิดปกติทางร่างกาย หลอกซื้อสลากฯไป 1 ใบ พร้อมกับขอแลกเงินธนบัตรฉบับละ 100 บาท โดยนำธนบัตรปลอมจำนวน 7 ใบมาขอแลกและจ่ายค่าสลากฯไป ทำให้ได้เงินจริงไปทั้งสิ้นหลายพันบาท ”
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า ธนบัตรปลอมที่ทำขึ้นมานั้น ได้ไปถ่ายเอกสารที่ร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น แล้วนำมาตัดให้พอดีกับขนาดเงินจริง และนำไปใช้ก่อเหตุ โดยในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบสวนขยายผลไปยังร้านรับถ่ายเอกสารด้วยว่ามีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาอย่างไรหรือไม่ หากมีส่วนรู้เห็นหรือส่วนได้ส่วนเสียก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ส่วนมูลเหตุที่ผู้ต้องหาก่อเหตุนั้น ให้การว่า ตัวเองรับจ้างที่อู่ซ่อมรถในเมืองขอนแก่น โดยจะเดินทางไปกลับทุกวันที่อ.บ้านฝางและร้านซ่อม และจะอาศัยช่วงเวลาพักงานออกมาก่อเหตุ เนื่องจากต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งมีสามีและลูก ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
“คดีดังกล่าวพบว่ามีผู้เสียหายหลายราย โดยเบื้องต้นจากคำรับสารภาพก่อเหตุมาแล้ว 7 ครั้ง ได้เงินไปจำนวนมาก หากมีผู้เสียหายรายอื่นๆหรือสงสัยว่าตัวเองจะถูกมิจฉาชีพรายนี้ก่อเหตุก็ให้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองขอนแก่นด้วย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่ม ซึ่งในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะมีการสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดีต่อไป หากพบมีใครร่วมมือก่อเหตุด้วยก็จะดำเนินคดีไปด้วยทั้งหมด”
แหล่งข่าว https://www.thaipost.net/main/detail/101369