(30 ต.ค.63) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการ‘คนละครึ่ง’ว่ากระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทยได้ตรวจพบร้านค้าที่กระทำผิดเงื่อนไขโครงการคนละครึ่งแล้ว 2แห่งและได้ดำเนินการตัดสิทธิออกจากโครงการเนื่องจากตรวจพบร้านค้า มีพฤติกรรมทำรายการซื้อขายแต่ไม่ได้มีการจำหน่ายสินค้าออกไปจริง ขณะนี้ทางธนาคารกรุงไทยได้ระงับการใช้ระบบแอพพลิเคชั่นถุงเงินและจะมีการยึดเงินคืนกลับมาทั้งหมด รวมถึงขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการนี้อีกด้วย
“สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)และธนาคารกรุงไทยได้รายงานผลการดำเนินโครงการคนละครึ่งให้ นายอาคม เติม พิทยาไพสิฐ รมว.คลังทราบแล้วโดยมีการตัดสิทธิผู้กระทำผิดไป2รายซึ่งกระทรวงการคลัง กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดทางข้อกฎหมายอยู่ หากพบว่ากระทำผิดจริง ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายฉ้อโกงและจะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีอีกด้วย”ปลัดฯคลัง ย้ำ
นายกฤษฎา ยืนยันว่า ธนาคารกรุงไทยมีโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพฯอย่างถูกหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น เป็นพื้นที่ที่มียอดใช้เยอะและมีเงินหมุนเวียนเข้ามากผิดปกติ ทางกรุงไทยและกระทรวงการคลังก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายร้านค้านั้นทันที
นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบร้านค้า ที่เข้าข่ายน่าสงสัยกระทำผิดอีกมากกว่า 10 ราย ขณะนี้ระหว่างตรวจสอบร่วมกับธนาคารกรุงไทย หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะปิดแอพพลิเคชันถุงเงิน และยึดเงินในระบบต่อไป รวมถึงในส่วนของผู้ลงทะเบียนหากรู้เห็นเป็นใจและเป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดก็จะถูกตัดสิทธิ และยึดเงินคืนทันทีด้วย
ส่วนตัวเลขการลงทะเบียนที่ครบ 10 ล้านคนแล้วนั้น ขณะนี้คลัง จะยังไม่มีการพิจารณาขยายจำนวนสิทธิ เพราะจะต้องรอดูยอดผู้ลงทะเบียนก่อนว่ามีการใช้สิทธิใช้จ่ายจริงเมื่อไรเพราะหากผู้ได้สิทธิและไม่ใช้สิทธิภายใน 1 วัน ก็จะมีการยกยอดนำสิทธิเหล่านั้นมาเปิดลงทะเบียนใหม่อีกรอบหลังวันที่ 10 พ.ย.นี้
เครดิต https://www.naewna.com/local/528712