เรารู้ดีว่า หากคุณทำงานประจำเพียงอย่างเดียว รายได้อาจไม่เพียงสำหรับการใช้ชีวิตในยุคปัจบันนี้ นั่นเป็นเหตุให้ให้หลาย ๆ คนมองหาอาชีพเสริมกันมากขึ้น อาชีพขับแท็กซี่ ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่หลายคนให้ความสนใจ และหันมานิยมทำกันมากในปัจจุบัน เพราะสามารถทำคู่กับงานประจำได้ ซึ่งหากใครในตอนนี้กำลังคิดหารายได้เสริมจากการขับแท็กซี่อยู่ล่ะก็ มาดูกันว่า อาชีพเสริมนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง
1. ทำใบขับขี่สาธารณะ
อันดับแรกเลย ก่อนที่คุณจะขับแท็กซี่นั้น ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ(แท็กซี่)เสียก่อน ซึ่งสามารถขอได้ที่กรมการขนส่งทางบก เช่นเดียวกับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล โดยจะต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายเสียก่อน เช่น ทดสอบทางสายตา ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า การอบรมมี 5 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่จะขอรับใบขับขี่ประเภทนี้นั้น ต้องมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
2. หาเช่ารถแท็กซี่
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะขับแท็กซี่เป็นรายได้เสริม การเช่ารถน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า การซื้อรถแท็กซี่เป็นของตัวเอง เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินที่สูง อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะเราสามารถเลือกเช่าช่วงเวลาที่ว่างได้
3. ศึกษาเส้นทาง
เมื่อได้ทั้งใบขับขี่สาธารณะ และเช่ารถแท็กซี่ได้แล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การศึกษาเรียนรู้เรื่องเส้นทาง เพราะหากออกไปรับลูกค้าจริง ๆ แล้วนั้น คงจะไม่ดีแน่ หากขับ ๆ ไปแล้วพาผู้โดยสารหลงทาง ออกนอกเส้นทาง นั่นหมายความว่า เสียทั้งเวลา และโอกาสในการสร้างรายได้อีกด้วย ดังนั้นการเรียนรู้เส้นทางการออกไปขับ จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หรือใครอาจยังไม่แน่ใจ อาจใช้แอปพลิเคชันแผนที่นำทางก่อน ก็ได้เช่นกัน
4. รู้จุดรอรับผู้โดยสาร
การขับรถตะลอน ๆ ไปเรื่อย ๆ นั้น คงไม่เป็นเรื่องดีแน่ๆ เพราะนอกจากจะเปลืองค่าน้ำมันแล้ว โอกาสที่จะตีรถฟรีกลับก็เป็นไปได้สูง ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องสังเกตให้ดีกว่า ช่วงเวลาไหน ควรไปรอผู้โดยสารตรงไหน เช่น ช่วงเลิกงาน อาจมีลูกค้าเยอะบริเวณย่านออฟฟิศ หรือ ช่วงดึก ๆ สุดสัปดาห์ ลูกค้าจะเยอะในโซนย่านท่องเที่ยวยามค่ำคืน
5. ปั๊ม NGV มีจุดไหนบ้างต้องรู้
หากคิดจะขับแท็กซี่เป็นอาชีพเสริม แล้วต้องการให้มีเงินเหลือ สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องบริหารต้นทุนค่าเชื้อเพลิงให้ดี ซึ่งการเติมแก๊ส NGV นั้น จะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนไปได้มากถึงเท่าตัวเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับการเติมน้ำมัน ดังนั้น คุณควรที่จะรู้ว่าปั๊ม NGV มีตั้งอยู่ตรงจุดไหนบ้าง เพราะจะช่วยคุมต้นทุนในการวิ่งแต่ละวันได้ง่ายขึ้น