(10 ม.ค.64)นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จำนวนไม่น้อยใช้เครื่องหมายรับรองไม่ทราบที่มา ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อและซื้อสินค้าไม่ได้มาตรฐาน สวทช. เล็งเห็นความสำคัญของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าวางจำหน่ายในท้องตลาดจึงได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ประกอบการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน และได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับเครื่องหมาย “P-mark” ตราสัญลักษณ์ยืนยันคุณภาพของสินค้า ที่นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกอีกด้วย
สำหรับ P-mark เป็นตราสัญลักษณ์ออกให้โดยองค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และหน่วยงานควบคุมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ในประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นต้น
นางเกศวรงค์ หงส์ลดารมภ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ตรารับรอง P-mark นั้น สวทช.จะมอบให้กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป (Finish Product) เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานกำหนด ด้วยกระบวนการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวิเคราะห์ทดสอบโดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (พีเทค) เป็นการกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมในประเทศนำวิทยาศาสตร์และการวิจัยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทัดเทียมกับนานาชาติ และที่สำคัญเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าได้คุณภาพและความปลอดภัย
ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ P-mark มีความหมายถึง Pass Proved (by) Professional ซึ่งได้รับการยอมรับจาก สมอ. กสทช. รวมถึงหน่วยงานมาตรฐานอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้า มีคุณภาพ มีความปลอดภัยในระดับสากล อย่างไรก็ตาม
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถนำผลิตภัณฑ์ไปทดสอบมาตรฐานและขอรับตรา P-mark ได้ที่ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สวทช. โทร 02 117 8600 ฝ่ายการตลาดต่อ 8611 ถึง 8614 โทรสาร 02 117 8625
อีเมล :sales@ptec.or.th เว็บไซต์ www.ptec.or.th
แหล่งข่าว https://www.thairath.co.th/news/society/2009744