ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลงธุรกิจโลก รวมไปถึงวิถีการทำงานที่ไม่ยึดติดในกรอบเดิม ๆ หากต้องพูดถึงเรื่อง “อาชีพ” แล้วนั้น ปัจจุบันต้องยกให้อาชีพ “ฟรีแลนซ์” ที่ทุกวันนี้กระจายไปทั่วทุกวงการ อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ไม่แพ้อาชีพประจำเลยทีเดียว อีกทั้งในปัจจุบันมีการสำรวจสายงานอาชีพ “ฟรีแลนซ์” ของชาวไทย พบว่ามีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาชีพนักแสดง นักวิจัย นักเขียน พนักงานขาย ช่างแต่งหน้า อาจารย์ นักวาด ไปจนถึงอาชีพที่คนทั่วไปมักเข้าใจว่าจ้องเป็นงานประจำเท่านั้น เช่น นักกฎหมาย แพทย์ พยาบาล ที่ปรึกษาด้านการเงินการลงทุน และนักบัญชีเป็นต้น
เปิดอาชีพฟรีแลนซ์ ที่มีรายได้สูงสุด
แม้ว่าอาชีพฟรีแลนซ์ จะมีรายรับต่อเดือนน้อยกว่าคนทำงานในกลุ่มอื่น ๆ แต่บอกได้เลยว่า มีชาวฟรีแลนซ์ถึง 10% ที่มีรายได้สูงกว่า 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งอาชีพ “ฟรีแลนซ์” ที่ทำรายได้หลักแสนต่อเดือนนั้น คือ ตัวแทนขายประกันชีวิต และที่ดิน, ผู้ตรวจสอบบัญชี, นักกฎหมาย, พนักงานขาย, วิทยากร, และงานสอนและงานวิจัย หากคุณต้องการก้าวสู่อาชีพฟรีแลนซ์ และต้องการหารายได้หลักแสน มี 3 ปัจจัยที่คุณต้องนำไปปฏิบัติ ดังนี้
1. สั่งสมประการณ์
หลายคนอาจคิดว่า รายได้ของฟรีแลนซ์นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว หรือความขยันในการทำงานเป็นหลัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ระดับของประสบการณ์มีผลต่อรายได้ของชาวฟรีแลนซ์ ซึ่งมีผลสำรวจพบว่า ฟรีแลนซ์ที่มีประสบการณ์มาก มีโอกาสสร้างรายได้สูงกว่า ฟรีแลนซ์ที่ยังไม่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะในสายงาน ที่ยิ่งมีความรู้เยอะ มีประสบการณ์เยอะ จะยิ่งได้เปรียบคือ พนักงานขาย เพราะต้องอาศัยทั้งความรอบรู้ในเรื่องสินค้า ไปจนถึงวิธีการเข้าหาลูกค้า และรับมือกับลูกค้า หรืออาชีพที่ปรึกษาทางด้านการเงินการลงทุน ต้องได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า
2. Work-Life Balance
เชื่อว่าหลายคนอาจมีคติประจำใจว่า Work hard, Play hard ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การทำงานหนัก ไม่ใช่ทางที่เงินจะเพิ่มเสมอไป ฟรีแลนซ์ชาวไทยโดยส่วนใหญ่แล้วนั้น ทำงานกันประมาณ 3 – 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่หากคุณลองเทียบกับฟรีแลนซ์ที่ทำงานน้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน แต่มีรายได้เท่ากับฟรีแลนซ์ที่ทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน นั่นแสดงให้เห็นว่า การทำงานหนักมาก ๆ ก็ไม่ได้ทำให้รายได้ของคุณมากขึ้นเสมอไป แต่คุณภาพของงานต่างหาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะ ที่คุณสั่งสมประสบการณ์มา
3. สร้างคอนเนกชั่น
ใครว่าคอนเนกชั่นไม่สำคัญ เพราะจากผลสำรวจมีตัวเลขออกมาว่า ชาวฟรีแลนซ์เกิน 50% หางานผ่านคอนเนกชั่นทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อด้วยตัวเอง หรือผ่านการแนะนำจากคนรู้จัก หรือแม้แต่โซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Instagram Facebook และ Twiter เป็นต้น