(27 ส.ค.2563) นางสาววิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ออฟฟิศเมท ออมนิเฟรนไชส์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้พัฒนารูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ปลดล็อคขีดคงามสามารถในการขายและการสร้างรายได้ไปกับบริษัทภายใต้ “แฟรนไชส์ ออฟฟิศเมท พลัส” (OfficeMate Plus+) ร้านแฟรนไชส์อุปกรณ์สำนักงาน ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าภาคธุรกิจและลูกค้าทั่วไป ตั้งเป้า 5 ปี จะขยายได้ถึง 150 สาขาครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย
สำหรับออฟฟิศเมท พลัส เป็นโมเดลธุรกิจเชิงรุก ที่ได้พัฒนาระบบการจัดการร้านแฟรนไชส์ให้ได้มาตรฐานเหมือนกับออฟฟิศเมท โดยสามารถขายสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีออมนิชาแนลไม่ว่าจะเป็นช่องทางการขายผ่านออนไลน์ในแชทแอนด์ช้อป, เฟสบุ๊ค และไลน์ของแฟรนไชส์ซีเอง ขณะเดียวกันยังมีพนักงานขายแบบบีทูบีไดเร็คเซลล์ ที่บริษัทจะให้คำแนะนำและฝึกอบรมพนักงานของแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการขายผ่านทุกช่องทาง และแฟรนไชส์ซีสามารถมั่นใจกับระบบการขายผ่านทุกช่องทางแบบไม่สะดุด
ส่วนการสร้างรายได้เบื้องต้นคาดการณ์ว่าแฟรนไชส์ซีจะสามารถสร้างรายได้ปีแรกเฉลี่ย 500,000 – 1,000,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การขาย ทั้งนี้หากมีทีมขายที่เชี่ยวชาญ จะสามารถสร้างรายได้ให้สูงขึ้นได้อีก โดยแฟรนไชส์ซีจะได้รับผลตอบแทนกำไรจากการขายสูงสุด 30% สามารถจำหน่ายสินค้าครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจ ครบครันกว่า 60,000 รายการ ทั้งเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน ไอที เฟอร์นิเจอร์ สินค้าโรงงานและอุตสาหกรรม , อุปกรณ์เครื่องใช้ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร บริการจัดเลี้ยง และอุปกรณ์ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และดูแลสุขภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดเก็บสต๊อกสินค้าเอง เนื่องจากบริษัทมีระบบการบริหารสต๊อกสินค้าภายในร้านและมีคลังสินค้าที่พร้อมรองรับคำสั่งซื้อที่นอกเหนือจากสินค้าที่วางขายในร้านให้แฟรนไชส์ซี
อย่างไรก็ดี จุดแข็งของออฟฟิศเมท พลัส คงเป็นร้านแฟรนไชส์ที่สามารถขายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้าธุรกิจได้ในมาตรฐานเดียวกันกับออฟฟิศเมท ซึ่งบริษัทมีประสบการณ์จริงมากกว่า 25 ปี และยังเป็นบริษัทฯ ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ค้าปลีกชั้นนำของประเทศ ที่มีความน่าเชื่อถืออีกด้วย
