“ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่ว – ข้าวไรซ์เบอร์รี่” เมนูสำหรับคนรักสุขภาพ – ทำขายก็รวย

Exclusive อาหารคาว แนะนำอาชีพเสริม

“ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่ว” อีกหนึ่งเมนูที่คงจะเคยกินกันมากันทุกคนอยู่แล้ว แต่จะทานไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วแบบปกติก็คงจะไม่ใช่ความต้องการของคนที่กำลังดูแลสุขภาพ จะต้องมาพร้อมกับอาหารคลีน ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วเมนูอาหารคลีนสุดแสนอร่อยสุดแซ่บ รับรองเลยว่าอร่อยไม่แพ้กับการกินไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วแบบปกติ ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมแบบไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่สร้างกำไรได้ทุกวัน กับสูตรการทำไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่ว รสชาติดี ทำง่าย และขายได้ทุกวัน คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมาแนะนำ

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลเรื่องนี้คือ แป้ง-ดลฤดี บุญนอก อายุ 27 ปี เจ้าของร้านไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่ว ซึ่งเล่าที่มาของอาชีพให้ฟังว่าได้ประกอบอาชีพนี้มานานประมาณ 2 ปีแล้ว เดิมนั้นเธอทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี แต่พอเศรษฐกิจไม่ดีบริษัทอยู่ในภาวะยํ่าแย่ก็คัดคนออกซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อตกอยูในภาวะเป็นคนตกงาน ระหว่างที่ยังหางานใหม่ไม่ได้ก็ขึ้นมาอยู่ที่บ้านพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีอาชีพขายของตามตลาดนัด แล้วพี่สะใภ้แนะนำให้เธอทำของขายเพราะตลาดนัดก็อยู่ใกล้บ้าน เธอสนใจทันทีเพราะอยากมีอาชีพเป็นของตัวเองไม่อยากเป็นลูกจ้างอีกแล้ว จากนั้นเธอไปเดินสำรวจตลาดดูว่าควรจะขายสินค้าอะไรที่ไม่ซํ้าคนอื่น

“ก่อนจะไปเดินสำรวจตลาด ก็ฟันธงเมนูในใจว่าต้องเป็นเมนูข้าว คิดว่ายังไงก็ขายได้เพราะคนต้องกินข้าวทุกวัน ที่ตลาดมีแค่ข้าวมันไก่, ข้าวขาหมู และข้าวแกง ก็กลับมาคิดว่าเราจะทำเมนูข้าวอะไรดีที่ทำง่าย ขายง่าย กินได้ทุกเพศทุกวัย และที่สำคัญต้องมีจุดขาย ด้วยความที่เป็นคนชอบกินอาหารแซ่บ ๆ บวกกับกระแสรักสุขภาพ นึกถึงอาหารคลีน ก็มาลงตัวที่ “ไก่ย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่” เชื่อว่าเมนูนี้คนรักสุขภาพจะต้องชอบมากแน่ ๆ แซ่บด้วยนํ้าจิ้มแจ่วที่รสจัดจ้าน ทานคู่กับผักสลัดทำให้การทานคลีนไม่น่าเบื่อ ช่วงแรก ๆ ที่ออกขายคนยังไม่รู้จักแต่ก็พอขายได้ พอลูกค้าซื้อกลับไปกินที่บ้านที่ออฟฟิศก็กลับมาซื้อซํ้า แถมยังมีคนฝากซื้อตลอด ๆ มีการบอกปากต่อปากว่าอร่อย ขายดีมาก บางวันก็เหมาหมดเลย”

อุปกรณ์

อุปกรณ์ มี เตาอบหรือหม้ออบลมร้อน, ที่คีบ, กะละมัง, ถาด, ครก เครื่องไม้เครื่องมืออื่น ๆ หยิบยืมเอาจากในครัวได้

ส่วนผสม – เครื่องปรุง

ส่วนผสม ที่ใช้ในการหมักไก่ มี ไก่สดส่วนตะโพก-อกไก่ลอกหนัง, นํ้ามันหอย, กระเทียม, พริกไทยเม็ดดำ, นํ้าตาลทราย, ซีอิ๊วขาว, ผักสลัด(เรดโอ๊ค-กรีนโอ๊ค), แครอท, มะเขือเทศสีดา ส่วนผสมนํ้าจิ้มแจ่ว พริกป่น, ข้าวคั่วป่น, นํ้ามะขามเปียก, นํ้ามะนาว, นํ้าตาลปี๊บ, นํ้าปลาอย่างดี, ผักชีฝรั่งซอย

ขั้นตอนการทำ “ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วข้าวไรซ์เบอร์รี่”

เริ่มจากเอาเนื้อไก่ส่วนอกและตะโพกมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดนํ้า แล้วใช้ส้อมจิ้มเนื้อไก่ส่วนอกและตะโพกให้ทั่ว ๆ เสร็จแล้วนำมาหมักด้วยเครื่องปรุงรส คือ ซีอิ๊วขาว, ซอสหอยนางรม, นํ้าตาลทราย และพริกไทยดำบดไม่ต้องละเอียด คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันดี ก่อนจะใส่ภาชนะปิดฝาหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นนานประมาณ 3 ชั่วโมง หรือหมักค้างคืนก็จะยิ่งดี เมื่อต้องการจะใช้ก็ให้นำออกมาวางไว้สักครู่ให้ความเย็นคลายตัวลงสักครู่ก่อนจะนำเข้าไปอบหรือย่างก็ได้ประมาณ 15-20 นาที

การทำนํ้าจิ้มแจ่ว เทนํ้ามะขามเปียกกับนํ้าตาลปี๊บใส่ลงในภาชนะ ใช้ช้อนหรือทัพพีคน ๆ บี้ ๆ จนนํ้าตาลละลายหมดแล้วจึงใส่นํ้าปลาและนํ้ามะนาวตามลงไป แล้วชิมรสเปรี้ยว เค็ม หวานตามชอบ ถ้าขาดรสไหนไปก็เพิ่มเติมเอาได้ เมื่อได้รสที่ชอบแล้วก็ใส่พริกป่น, ข้าวคั่วป่น, หอมแดง และผักชีฝรั่งซอยลงไป คนให้เข้ากันอีกที เราก็จะได้นํ้าจิ้มแจ่วสุดแซ่บแสนอร่อย

นำผักสลัดที่เตรียม ไว้ เช่น เรดโอ๊ค-กรีนโอ๊ค, แครอท และมะเขือเทศมาล้างให้สะอาด ผึ่งสะเด็ดนํ้าให้แห้ง นำแครอทมาปอกเปลือกแล้วหั่นซอยเป็นเส้นสวยงาม ส่วนผักสลัดเรดโอ๊ค-กรีนโอ๊คจัดแต่งให้สวยงาม จากนั้นทำ การหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่

เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จัดเสิร์ฟได้เลย

แป้ง ยังบอกอีกว่า ความชอบของลูกค้าแต่ละ คนไม่เหมือนกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้า เธอจึงเพิ่มเมนูอกไก่กระเทียม, ข้าวยำไก่ย่าง และทำนํ้าจิ้มซีฟู้ดที่อร่อยแซ่บจัดจ้านเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าอีกด้วย

ราคาขายที่เหมาะสม

สำหรับราคาขาย “ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วข้าวไรซ์เบอร์รี่” เจ้านี้ ขายชุดละ 50 บาท (มีข้าวไรซ์เบอร์รี่+ไก่ย่างพริกไทยดำหรือไก่กระเทียม-ผักสลัด+นํ้าจิ้ม)

นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่นำมาฝากกัน ใครในพื้นที่อื่นสนใจอาชีพนี้ก็ลองนำสูตรไปฝึกฝนกันดู หรือใครอยากลองชิมฝีมือ “ไก่ย่างนํ้าจิ้มแจ่วข้าวไรซ์เบอร์รี่” เจ้านี้ ก็แวะเวียนไปซื้อหามาชิมกันได้ ร้านนี้จะขายที่ตลาดไฮโซ (ตลาดนัดเช้า)อยู่ที่ซอยวิภาวดี 64 เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-10.30 น. หากต้องการสั่งไปออกงานหรือใช้ในงานต่าง ๆ ติดต่อ แป้ง- ดลฤดี บุญนอก เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ได้ที่โทร. 06-3434-5469

แหล่งข้อมูล https://www.dailynews.co.th/article/827811