เคยสงสัยไหมว่า ทำไมชาวยิวถึงได้ชื่อว่า เป็นชนชาติแห่งความร่ำรวยที่ติดอันดับโลก ทั้ง ๆ ที่ประชากรบนโลกใบนี้นั้น มีประชากรที่เป็นชาวยิวเพียงแค่ประมาณ 25 ล้านคนเท่านั้น อีกทั้งยังกระจัดกระจายไปอยู่ตามทวีปต่าง ๆ อีกด้วย แต่ในจำนวนประชากรเพียงน้อยนิดนี้ ศักยภาพของพวกเขายังติดอันดับ ในกลุ่มของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตัวอย่างเช่น Mark Zukerberg เจ้าของ Facebook ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ และ Steven Spielberg ผู้กำกับหนัง ฉายาพ่อมดแห่งฮอลลีวูด ก็มีเชื่อสายยิวเช่นกัน และในวันนี้เราจึงได้นำเอาหลักการคิดแบบชาวยิว มานำเสนอให้คุณได้ทราบ เพื่อที่จะนำไปปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการทำธุรกิจ และการลงทุน มาฝากกันครับ
1. รักษาทรัพย์
การรักษาทรัพย์ คือการนำไปสู่การเป็นนักธุรกิจเงินล้านของชาวยิว โดยเริ่มจากการเก็บเงินสด และฝากเงิน เนื่องจากชาวยิวในสมัยก่อนนั้น ต้องอพยพ และย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ จึงทำให้ต้องมีเงินสดติดตัวอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งชาวยิวยังมีคำสอนจากรุ่นสู่รุ่นตลอดว่า หากนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจที่ไม่งอกเงยขึ้น ก็ให้นำเงินนั้นไปฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ยเสียดีกว่า ซึ่งคำสอนเหล่านี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวยิวมีนิสัยรักในการออม
2. การหาเงินเป็นเรื่องสำคัญ
อย่างที่หลาย ๆ คนเคยกล่าวไว้ว่า ชาวยิวเชื่อว่าเงินคือพระเจ้า นั่นเป็นเพราะว่า ชาวยิวถือเรื่องเงินว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต และเป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากว่าเงินสามารถใช้แลกทุกสิ่งทุกอย่างได้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และสามารถสร้างการยอมรับในสังคมได้ และยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างศักยภาพเพื่อให้ตัวเองก้าวขึ้นเป็นเจ้าของธุรกิจ นำไปสู่เป็นผู้นำในอนาคตได้
3. สร้างกำไรจากการขายของน้อยชิ้น
ในข้อนี้อาจเป็นหลักการคิด และกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่แตกต่างจากชาวจีน ที่เน้นไปที่การขายของในปริมาณมาก แม้ว่าของแต่ละชิ้นนั้น จะได้กำไรช่างน้อยนิด เพื่อเป็นการสะสมรายได้ และกำไรให้เพิ่มพูนขึ้น เพื่อเป็นเส้นทางของการเป็นนักธุรกิจเงินล้าน แต่สำหรับชาวยิวนั้น จะเน้นการลงทุนโดยการขายของน้อยชิ้น แต่กำไรในแต่ละชิ้น ต้องสามารถสร้างกำไรให้ได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพด้วยเช่นกัน เช่น เป็นคนรวย อยู่ในระดับคนชั้นสูง รวมไปถึงผู้หญิง เพราะชาวยิวเชื่อว่า ผู้หญิงเป็นคนที่เก็บเงินของครอบครัว จึงมีโอกาสในการใช้เงินเพื่อสนองอารมณ์ได้มากกว่าผู้ชาย ไปจนถึงเรื่องการจับจ่ายซื้อหาเสื้อผ้า และเครื่องประดับความงามต่าง ๆ ที่มากกว่าผู้ชาย
