“ขนมโตเกียว” ทำง่าย ขายที่ไหนคนก็นิยมซื้อ โดยเฉพาะถ้ามีไส้แปลกๆ ให้ลูกค้าเลือก

แนะนำอาชีพเสริม

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้คือ วลัย พรรณอำนาจ หรือ “ใหม่” ปัจจุบันอายุ 33 ปี เจ้าของสูตรขนมโตเกียวโบราณแป้งนุ่ม เล่าให้ฟังว่า ก่อนมายึดอาชีพนี้เคยทำอาชีพอื่นมาก่อนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ พอแต่งงานมีครอบครัวก็ออกมาดูแลครอบครัว พอลูกเริ่มโตเข้าโรงเรียนก็มองหารายได้เสริมช่วยครอบครัวอีกทาง โดยขายลูกชิ้นปิ้งก็พอขายได้ระดับหนึ่งเนื่องจากทุกตลาดที่ไปขายจะมีพ่อค้าแม่ค้าขายของอยู่แล้วหลายเจ้า ต่อมามีปัญหาครอบครัวต้องเลิกรากันไปเธอต้องรับภาระครอบครัวคนเดียวซึ่งรายได้จากการขายลูกชิ้นปิ้งไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ต่อมาจึงขายเสื้อผ้า, ของเล่น ซึ่งแม้จะขายดี แต่ต้องใช้ต้นทุนสูง ถ้าวันไหนขายไม่ดีก็ต้องกินทุนจึงเลิกไป

“ในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาทำขนมขายเพราะเราทำเป็นอยู่แล้ว เนื่องจากพ่อกับแม่ทำขนมเบื้องไทย, ขนมถังแตก และขนมโตเกียวขายเลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ เพราะเข้าใจถึงความชอบกินของนักศึกษาและคนรุ่นใหม่เราจึงเอาสูตรของพ่อแม่มาดัดแปลงตามความชอบส่วนตัวโดยเพิ่มสัดส่วนนมเนย เช่น ขนมโตเกียว เราก็มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งจะนิ่มละเอียด รสชาติกลมกล่อมอร่อย มีกลิ่นหอม ส่วนไส้ขนมก็จะชูความเป็นไทยประยุกต์ เช่น สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก ใช้ยี่ห้อดีไม่ค่อยเหมือนร้านอื่น เลยทำให้ได้ลูกค้าประจำหลายกลุ่ม”

ใหม่ บอกว่า เธอเป็นแม่ค้าเร่ร่อนขายขนมเบื้องไทย, ขนมถังแตก และขนมโตเกียว โดยทำสลับปรับเปลี่ยนไปตามตลาดนัดต่าง ๆ ขนมโตเกียว มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ไม่จุกจิก สามารถทำเองคนเดียวได้ ใช้เงินลงทุนไม่สูง ที่สำคัญกำไรดี เพียงแต่ใส่ใจในการผสมแป้ง และพลิกแพลงไส้ขนมรับรองขายได้ตลอด

อุปกรณ์

ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี… เตาแก๊ส, กระทะแบนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, กะละมัง, เกรียงแซะขนม, ตะแกรง

ภาชนะสเตนเลสสำหรับใส่ไส้ขนม, ช้อน, ตะกร้อตีไข่, ทัพพีด้ามสั้น, ถาด, หม้อ, ถังใส่แป้ง และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวมาใช้ได้

ส่วนผสม ใช้ทำ “ตัวแป้งโตเกียว”

แป้งสาลีอเนกประสงค์ตราว่าว 1 กิโลกรัม, นมสดคาร์เนชั่น 1 กระป๋อง, น้ำตาลทราย 6 ขีด, ไข่ไก่ (เบอร์ 3) 12 ฟอง, ผงฟู 30 กรัม, เกลือป่น 10 กรัม, วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ, เนยละลาย 1 ขีด และน้ำเปล่า
ไส้ขนมจะมี 4 ไส้คือ ไส้กรอก, ไส้ครีม, ไส่สังขยา และไส้เผือก

ขั้นตอนการทำ “ขนมโตเกียว”

นำแป้งสาลีมาร่อนผสมรวมกับผงฟู ร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วตั้งพักไว้ ตอกไข่ใส่ภาชนะ ตีไข่ให้ขึ้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด ตีไข่ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ขึ้นฟูเป็นสีขาวนวล ใส่เกลือผสมลงไป จากนั้นให้นำแป้งที่ร่อนเตรียมไว้มาค่อย ๆ ใส่ทีละนิด คนส่วนผสมสลับไปเรื่อย ๆ จนหมด จึงใส่เนยละลายและน้ำลงไป คนนวดให้ส่วนผสมเนียนเข้ากัน ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที

การเตรียมไส้ขนม

ถ้าเป็น “ไส้ครีม” จะใช้…นมข้นจืด, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, เนยสด และวานิลลา ผสมแป้งสาลีกับแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เทนมสดใส่ลงไป คนให้แป้งละลาย ตอกไข่ใส่ชาม แล้วตีพอเข้ากัน เทไข่ผ่านกระชอนลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้ละลาย นำส่วนผสมใส่หม้อตุ๋นยกตั้งไฟ คนตลอดเวลาจนส่วนผสมสุกเป็นครีมข้น เหยาะวานิลลาใส่ไปนิดพอให้มีกลิ่น ยกลงจากเตาตั้งพักไว้ให้เย็น

“ไส้สังขยา”

ใช้ นมข้นจืด, แป้งข้าวโพด, กะทิ, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, น้ำใบเตยคั้นข้น และเกลือ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย แล้วทยอยใส่แป้งข้าวโพด คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี จึงใส่นมข้นจืด น้ำใบเตย กะทิ เกลือ คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนนำไปกรองเอาเศษออก แล้วนำไปใส่หม้อตุ๋นยกขึ้นตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา พอรู้สึกว่าส่วนผสมหนืด ๆ เป็นอันใช้ได้ ยกลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

“ไส้เผือก”

ใช้เผือกนึ่งสุกบดละเอียด, กะทิ, นมข้นจืด, น้ำตาลทราย, เกลือ นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปกวนในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง กวนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดจนไส้เผือกแห้ง เป็นอันเสร็จยกลงทิ้งไว้ให้เย็น ส่วน “ไส้กรอก” ใช้ไส้กรอกขนาด 2 นิ้ว ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่แกะพลาสติกที่หุ้มออก นำไปวางบนกระทะกลับไปมาให้สุก ก็นำไปใส่เป็นไส้ขนมโตเกียวได้เลย

ขั้นตอนในการทำเป็นขนมโตเกียวที่พร้อมขาย

นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน พอกระทะร้อนได้ที่แล้วก็ให้ลดไฟลงให้ไฟอยู่ปานกลาง ไม่แรงไปไม่อ่อนไป เอาเนยทากระทะให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าเช็ดออก ทำให้กระทะแค่พอมัน ๆ ใช้ทัพพีกลมตักแป้งสำเร็จหยอดลงในกระทะ ใช้ก้นทัพพีละเลงแป้งเป็นรูปวงรีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว พอแป้งเริ่มสุกใช้ช้อนตักไส้ที่ต้องการใส่ลงไป ใช้เกรียงแซะแผ่นแป้งทางด้านล่าง พร้อมกับม้วนให้ปิดไส้ (ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและลูกเล่นของแต่ละคน) ก็จะได้ขนมโตเกียวตามที่ลูกค้าต้องการ

สำหรับราคาขาย “ขนมโตเกียว” เจ้านี้ ขายกล่องละ 20 บาท (มีขนม 5 ชิ้น คละไส้ได้ตามความชอบ)

คนสนใจอาชีพทำขนมโตเกียวขายก็ลองฝึกลองทำกันดู แต่หากมีโอกาสผ่านไป อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อยากแวะชิม “ขนมโตเกียว” เจ้านี้ ส่วนใหญ่จะขายหน้างานต่าง ๆ หมดหน้างานก็ตระเวนขายตามตลาดนัดต่าง ๆ เช่น วันอังคาร ขายที่ตลาดหนองปรั่ง, วันพุธ ขายที่ตลาดยูคา ม.เกษตรศาสตร์กำแพงแสน, วันศุกร์ ขายที่ตลาดห้วยกระบอก, วันเสาร์ ขายที่ตลาดดีสุข และวันอาทิตย์ ขายที่สวนน้ำหนองกระทุ่ม ต้องการสั่งไปออกร้านและออกงานเทศกาลต่าง ๆ ติดต่อ ใหม่-วลัย พรรณอำนาจ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ได้ที่ โทร. 09-5603-5883 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ตกยุค และช่องทางทำกินที่น่าสน!

เครดิต https://www.dailynews.co.th/article/805438