“ผัดกะเพรา” คืออาหารตามสั่ง ที่ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก หรือร้านใหญ่ ต้องมีเมนูนี้ติดร้า เป็นเมนูที่สำเสนอความเรียบง่าย ปรุงรสไม่ยาก อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 5 อย่างเท่านั้น คือ พริก กระเทียม ใบกะเพรา น้ำปลา และเนื้อสัตว์ แต่ในปัจจุบันนี้ผัดกะเพราะได้วิวัฒนาการไปหลากหลาย บ้างก็เพิ่มเติมใส่ทั้งถั่วฝักยาว หอมหัวใหญ่ และข้าวโพดอ่อน จนกลายเป็นวัตถุดิบที่ใส่กันจนเป็นปกติไปแล้ว
เนื่องจากว่า “ผัดกะเพรา” เป็นเมนูที่สามารถทานได้เร็ว แต่แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่ ในโซเชียลมีประเด็นเกี่ยวกับผัดกะเพรา ที่ต่างออกมาบ่นเป็นเสียเดียวกันว่า ใส่ผักอย่างอื่นลงไปด้วยแล้วนั้น มันไม่ใช่ผัดกะเพรา ถึงขึ้นมีแฮชแท็กทวงคืนผัดกะเพราขึ้นมา แต่ในบางคนอาจคิดว่า ผัดกระเพราเป็นเมนูสิ้นคิด แต่หากเรารู้สึกว่า ถ้ามันสิ้นคิดจริง ๆ แล้วนั้น แสดงว่าต้องมีคนคิดให้ แล้วก็มีคนสั่งตาม ๆ กันไป แสดงว่าต้องมีความไว้ใจอยู่ในเมนูนี้บ้างละ และดูเหมือนว่า ผัดกะเพรา จะเป็นเมนูที่มีความมักง่ายทุกอย่างมารวมกัน เหมือนจะทำง่าย แต่ในความเป็นจริงไม่ง่าย เพราะเป็นเมนูที่ต้องใช้ความใส่ใจในการทำ
ด้วยเหตุจากทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้ จึงทำให้มีนักธุรกิจท่านหนึ่ง อยากที่ยกระดับอาหารสินคิดนี้ให้มีมาตรฐาน โดยการใช้วัตถุดิบอย่างดีในการทำ ตั้งแต่เนื้อสัตว์ ที่นำมาใช้นั้น ต้องปลอดสาร ใช้ข้าวหอมมะลิอย่างดี ใบกะเพราต้องปลอดสารเคมี รวมไปถึงการผัด ต้องไม่ใช่ผงชูรสในการทำ ฉะนั้นร้าน “ผัดกะเพรา” ที่เขาตั้งใจทำนั้น ต้องได้มาตรฐาน มีความสะดวก และสะอาด และต้องดีต่อสุขภาพ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องมานั่งรอนาน ๆ และนักธุรกิจท่านนี้ ยังพบอีกว่า ผัดกะเพราของคนเมืองนั้น จะเน้นไปที่รสเผ็ดที่กลมกล่อม แต่ต้องไม่มีผงชูรส ในตอนที่เขาทดลองเปิดสาขาแรกนั้น มีเพียงเมนูเดียวเท่านั้นคือ กะเพราไก่ไข่ดาวเท่านั้น จากนั้นเห็นว่าลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาที่ร้านเรื่อย ๆ ถึงในปัจจุบันนี้ มีเมนูประจำอยู่ 6 เมนูให้เลือก ได้แก่ กะเพราหมูอนามัย, กะเพราหมูแดดเดียว, กะเพราเป็ดพะโล้, กะเพราเนื้อขุนโคขุนสับ, กะเพราแหนมเอ็นทอดไก่ และ กะเพราไก่อนามัย
นอกจากการใช้วัตถุดิบอย่างดี และมาตรฐานในการทำอาหารแล้ว ในเรื่องของความตั้งใจ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ได้รัรบความนิยมจากผู้บริโภค จนเขาสามารถขยายสาขาได้มากถึง 14 สาขาภายใน 2 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังรวมไปถึงในเรื่องการออกแบบร้าน ที่สามารถเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานสามารถเดินเสิร์ฟได้อย่างทั่วถึง และไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกถึงความอึดอัด เมื่ออยู่ภายในร้าน
