หนึ่งในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจและนิยมในยุคนี้นั่นก็คือ การลงทุนกับ Hostel หรือที่พักราคาประหยัด ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานสำหรับการพักผ่อนครบครันทั้งที่นอน หมอน ผ้าห่ม อินเตอร์เน็ตไวไฟ มีห้องนอนรวมกัน บางแห่งก็แยกห้องชายหญิงให้ บางแห่งก็นอนรวมกันทุกเพศ ใช้ห้องน้ำและพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ซึ่งบางแห่งก็จะมีโซนให้บริการห้องส่วนตัวสำหรับรองรับความต้องการลูกค้าบางกลุ่มด้วย
จุดแข็งของ Hostel
สาเหตุที่ทำให้ Hostel ได้รับความนิยมสูง นั่นก็คือ จุดแข็งทางด้านราคา ที่เน้นราคาถูก นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านที่พัก เพื่อเก็บเงินส่วนนั้นไปใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยว ตอบโจทย์คนที่อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ติดหรู หรือคนชอบแบ็คแพ็คต่างๆ บ่อยครั้งก็สร้างมิตรภาพใหม่ๆ กับคนที่นอนร่วมห้อง ซึ่งโดยมากมักชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวเหมือนกัน
ยิ่งในยุคที่ปัญหาเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติของธุรกิจ Hostel เพราะตอบโจทย์คนในสังคม ที่ต้องการจ่ายน้อยแต่คุ้มค่า ธุรกิจ Hostel จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจและยังมีโอกาสเติบโตได้สูง
เส้นทางการลงทุนแบบ Passive Income
Hostel คือหนึ่งการลงทุนที่สร้างรายได้รูปแบบ Passive Income ได้ง่ายและดึงดูดนักลงทุน เพราะเริ่มต้นได้ไม่ยาก ใช้เงินลงทุนไม่มาก ทำให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสก้าวเข้ามาในตลาดได้สูง และมีระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยไม่เกิน 5 ปีซึ่งนับว่าไม่นานจนเกินไป
หัวใจหลักของการลงทุนในธุรกิจ Hostel ประการแรก นั่นก็คือ การวางแผนด้านเงินทุนและค่าใช้จ่ายให้ดี การมีเงินสดสำรองหมุนเวียนค่าใช้จ่ายที่นานพอในระยะเริ่มต้น โดยไม่ควรน้อยกว่า 6 เดือน หรือหากสามารถสำรองได้นาน 1 ปี ก็จะยิ่งลดความเสี่ยงได้น้อยลง
ประการที่สอง คือ การเลือกทำเล ซึ่งเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ทำเลมีผลต่อทุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เรามองข้ามไม่ได้ ซึ่งธุรกิจโฮสเทลเองก็ต้องเลือกทำเลที่ดี แต่ไม่ต้องดีมากถึงขั้นเกรดเอ เพราะราคาต้นทุนด้านทำเลจะสูงเกินไป เราจึงอาจเลือกทำเลรอง ที่ยังคงดีมานด์ทางการตลาด มีความต้องการที่มากพอที่จะทำให้ธุรกิจมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาฐานกระแสเงินสดในธุรกิจไม่ให้ขาดหาย
ประการที่สาม คือเรื่องไอเดียสร้างสรรค์ นั่นก็คือ โฮสเทลต้องมีจุดแข็ง จุดต่าง ที่ส่งเสริมให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกเรา ด้วยไอเดียการตกแต่งสถานที่ การให้บริการ ราคาและโปรโมชั่น ซึ่งนักธุรกิจจำเป็นต้องมองหาไอเดียใหม่ๆ ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้เสมอ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ชี้วัดความสำเร็จ
ประการสุดท้าย นั่นก็คือ การบริหารจัดการด้านงานดูแลลูกค้า นี่คือสิ่งที่จะสร้างฐานลูกค้าประจำและนำไปสู่การซื้อซ้ำ หากเราดูแลลูกค้าได้ดี สร้างความประทับใจในการเข้าใช้บริการ ลูกค้าใหม่ก็จะกลายเป็นลูกค้าขาประจำ กลับมาใช้บริการซ้ำ รวมไปถึงการเป็นสุดยอดนักขายให้กับเราโดยการบอกต่อที่นักธุรกิจต่างใฝ่ฝันถึงนั่นเอง
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และเริ่มต้นได้ง่ายโดยเฉพาะมือใหม่และคนเงินทุนน้อย
