นายอัครภัทร์ วอนเพียร ผอ.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์มอบนโยบายให้สหกรณ์ทุกจังหวัด เป็นพี่เลี้ยง แนะนำทั้งในเรื่องการใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ อุปกรณ์การผลิต แหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ การแปรรูป และการตลาด
โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯจำนวน 83 ราย ที่ผ่านมา สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจเยี่ยม สำรวจความต้องการและความพร้อมที่จะกลับไปทำการเกษตรครบทุกราย ซึ่งเกษตรกรส่วนมากต้องการองค์ความรู้ การทำเกษตรให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ ปลอดภัย ด้วยต้นทุนต่ำ
รวมถึงส่งเสริมการตลาด ทั้งตลาดภายในจังหวัด-ต่างจังหวัดและตลาดออนไลน์ การจัดอบรมจะเริ่มในเดือนตุลาคม 2563 นี้ โดยประสานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี หวังว่าลูกหลานเกษตรที่เข้าร่วมโครงการฯ จะเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ ผลักดันพัฒนาภาคการเกษตรไทยให้ยั่งยืนต่อไป
นายสหคุณ แผนใหญ่ เกษตรกร ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นวิศวกรควบคุมปั๊มน้ำ ซึ่งบริษัทมีนโยบายให้ทำงานที่บ้าน จึงใช้โอกาสช่วงเวลาก่อนเข้างาน คือ 06.00-09.00 น. ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ในพื้นที่ 10 ไร่ ปลูกมีเผือก อ้อย กล้วย ขนุน มะขามเทศ ข่าและไม้ป่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาทดลองแปรรูปแป้งเผือก แป้งกล้วยน้ำว้า ทางเลือกใหม่แทนแป้งสาลีในการทำขนม และทำกล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบปั๊มน้ำโซลาร์เซลล์ใช้เอง จำนวน 4 แผง เพื่อสูบน้ำล่อเลี้ยงพืช ช่วยลดต้นทุนการเกษตร โดยอนาคตวางแผนทำเกษตรผสมผสานขยายเป็น 25 ไร่ สาเหตุที่เข้าร่วมโครงการฯ อยากได้ความรู้และงบประมาณสนับสนุนในการทำโคกหนองนาโมเดล
ส่วน นายชูศักดิ์ แสงอาทิตย์ เกษตรกร ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าร่วมโครงการนี้ ระบุว่า ปัจจุบันเป็นช่างอิสระติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์และปั๊มน้ำรับงานทั่วเขตภาคกลางเป็นหลักโดยทำการเกษตรในช่วงวันว่างงาน หรือต้องหยุดรับงานเดือนละ 4-5 วัน เพื่อดูแลสวน 32 ไร่มีทั้ง มะพร้าว ผักหวาน กล้วย ขนุน มะนาว มะตูม ต้นยางพารา ต้นสัก ต้นมะฮอกกานี
ทั้งนี้ยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใช้เอง 12 แผง ผลิตไฟฟ้าใช้ในระบบปั๊มน้ำและใช้พ่นสมุนไพรไล่แมลงทั้งในสวนและในบ้านซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้า สำหรับผลผลิตที่ได้จะมีแม่ค้ามารับซื้อถึงไร่บ้าง บางครั้งส่งตลาดชุมชน สาเหตุที่เข้าร่วมโครงการฯ อยากได้พี่เลี้ยงและเครือข่ายเกษตรกรให้คำแนะนำด้านการแปรรูปผลผลิตและช่องทางการตลาด
กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะช่วยเสริมความรู้การเกษตร โดยจะประสานหน่วยงานต่าง ๆ เข้าสนับสนุนความรู้ทั้งปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา ปศุสัตว์ในรูปแบบเกษตรผสมผสาน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
https://www.dailynews.co.th/politics/792188