3 เรื่องต้องระวัง ธุรกิจไปไม่รอด

คัมภีร์เศรษฐี 4.0

โดยข้อมูลที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาบ่อย ๆ ในเรื่องของสตาร์ทอัพคือ เรื่องของการล้มเหลวไม่เป็นท่านั่นเอง หรือที่พบบ่อย ๆ อีกคำพูดหนึ่งคือ จะหายไปอีกในเวลาไม่เกิน 3 ปี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ข้อมูลเหล่านี้ ไม่ใช่ข้อมูลที่สามารถนำมาอ้างอิงได้ หากคุณคิดเริ่มต้นที่จะทำธุรกิจที่เรียกว่า “สตาร์ทอัพ” แทนที่จะคอยหาข้อมูลเพื่อใช้ในการอ้างความล้มเหลว แต่เรามาคอยดู 3 สัญญาณเตือนนี้ จะดีกว่าไหม เพราะถ้าหากคุณพบเจอ จะได้รีบแก้ไขก่อนที่คุณพบจุดจบ

 

3 สัญญาณเตือน ธุรกิจของคุณอาจไม่รอด

1. ROI เริ่มไม่ดี ในธุรกิจของคุณ

สัญญาณเตือนแรกนี้ ถือเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก เพราะคุณไม่ต้องมีความรู้เรื่องการเงินอะไรมากมาย แต่ก็พอให้จะทำให้คุณวัดระดับความรุนแรง ในเรื่องเงินนี้ได้ เพราะอย่างที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า การทำธุรกิจนั้นคือ การนำเงินไปลงทุน เพื่อให้ได้เงินกลับมา แต่หากเงินที่ได้กลับมานั้น น้อยกว่าเงินที่คุณได้ลงทุนไป แสดงว่า ROI ของธุรกิจคุณนั้น เริ่มมาทางที่ไม่ดีแล้ว หากไม่รีบแก้ไขด้วยการทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น ก็เหมือนกับคุณผลาญเงินทุนไปโดยเสียเปล่า หรือรอวันลาจากธุรกิจแค่นั้นเอง

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะในบางครั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป จะสร้างให้ ROI ติดลบ จนในบางครั้งอาจเกิดเรื่อง การจัดการเงินที่ไม่มีดีเกิดขึ้น เช่น คุณจ้างจำนวนพนักงานเยอะเกินไป หรืออาจลงทุนในการซื้อเครื่องไม้เครื่องมือมากเกินไป

2. ธุรกิจมีรูปแบบที่ธรรมดาทั่วไป

ซึ่งหลายต่อหลายครั้ง ในธรุกิจจะเน้นไปที่ตลาดของคนทั่วไปมากจนเกินไป ทั้ง ๆ ที่ในตอนเริ่มต้นธุรกิจแล้วนั้น คุณออกแบบกลุ่มลูกค้า คุณอาจคิดว่าเป็นที่ถูกต้องแล้ว แต่การลดความเสี่ยงด้วยการจับตลาดกลุ่มคนหมู่มากนั้น กลับเป็นอันตรายต่อธุรกิจของคุณมากกว่า

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น ยิ่งคุณจำกัดตลาดของคุณให้แคบเท่าไร ธุรกิจอขงคุณจะยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น เมื่อนั้น จะส่งผลให้คุณทำการโฆษณาในด้านการตลาด จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะธุรกิจของคุณนั้น ไม่สามารถให้บริการได้กับผู้คนได้หลากหลายกลุ่มในตลาด

3. ธุรกิจไม่ตอบสนองความต้องการตลาด

เพราะถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจในช่วงเริ่มต้น แต่อยากให้คุณได้คำนึงไว้คือ “เรียนรู้เร็วกว่าคนอื่น” ย่อมเร็วกว่าคนอื่น แต่เมื่อใดที่คุณหยุดเรียนรู้นั้น หมายถึงว่า กิจการของคุณเข้าใกล้ความล้มเหลวอย่างเต็มที่แล้ว ตัวอย่างเช่น Blockbuster ที่ต้องล้มเหลวเพียงแค่ชั่วข้ามคือ ด้วยกิจการจาก Netflix และ Mono 29 ที่สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของลูกค้าได้ เป็นต้น