จริงอยู่ว่าชัยชนะจะเกิดขึ้นได้มันต้องมาจากเกมรุกเพื่อทำประตู แต่เหนื่อสิ่งอื่นใด การมีเกมรับที่แข็งแกร่งคือสิ่งจำเป็นที่จะพาทีมไปสู่ความสำเร็จ
หลายต่อหลายทีมในยุโรปต่างสร้างความมั่นคงตรงแนวรับ เพื่อหวังให้ทีมมีจุดมุ่งหมายคว้าแชมป์ในบั้นปลาย โดยในสกู๊ปนี้ เราได้จัดอันดับ 5 ทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในฤดูกาลนี้ โดยมีแถมหนึ่งอันดับที่เรียกว่าสร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลหลาย ๆ คน
5. บาเยิร์น มิวนิก
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุดทีมหนึ่งในโลกฟุตบอลยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถสร้างความประทับใจให้ใครหลาย ๆ คนในเรื่องของเกมรับในซีซั่นนี้
ผู้เล่นเกมรับของ บาเยิร์น ต่างทำผลงานกันได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ และ เบ็นฌาแม็ง ปาวาร์
ทีมดังจากแคว้น บาวาเรียส์ เทียบเคียงกับ เรอัล มาดริด ที่เสียประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก น้อยที่สุด (3 ลูก) ขณะที่ใน บุนเดสลีกา “เสือใต้” เสียประตู 21 ลูก น้อยที่สุดในลีกเมืองเบียร์ปีนี้
4. เชลซี
เชลซี ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะความแข็งแกร่งในเรื่องของการป้องกันประตู นักเตะอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ต่างช่วยกันผนึกกำลังให้กำแพงเหล็กสิงห์บลูส์ มีความมั่นคง
ตลอดทั้งฤดูกาลนี้ ลูกทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล เสียประตูในลีกแค่ 18 ลูกจาก 24 เกม เป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของลีก อังกฤษ ขณะที่บนเวทียุโรปพวกเขาปล่อยให้คู่แข่งเจาะตาข่าย 4 ลูกจาก 6 เกมรอบแบ่งกลุ่ม เป็นรองแค่ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้น
3. เรอัล มาดริด
ตามที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า “ราชันชุดขาว” เสียประตูบอลถ้วยใหญ่ ยุโรป แค่ 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งเทียบเท่ากับ บาเยิร์น มิวนิค
ไม่ใช่แค่ศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาสร้างเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ใน ลาลีกา สเปน “ลอส บรังโกส์” เป็นทีมเกมรับดีสุดอันดับสามด้วยการเสียไป 20 ลูกจาก 22 เกม
ก่อนเปิดฤดูกาล เรอัล มาดริด ต้องสูญเสียผู้เล่นกำลังหลักบนแผงแนวรับทั้ง เซร์คิโอ รามอส และ ราฟาแอล วาราน แต่การจับคู่กันระหว่าง ดาวิด อลาบา และ เอแดร์ มิลิเตา ต่างสร้างความประทับใจ โดยมี แฟร์กล็อง เมนดี้ และ นาโน เป็นกำลังเสริม
2. แมนฯ ซิตี้
“เรือใบสีฟ้า” มีเกมรับที่แข็งแกร่งสุด ๆ โดยมี รูเบน ดิอาส และ เอเมอริค ลาปอร์กต์ ยืนตระหง่านเป็นคู่เซ็นเตอร์ ขณะที่แบ็กสองฝั่งก็มี ชูเอา กันเซโล่ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ช่วยส่งเสริม
ผู้เล่นเหล่านี้ช่วยกันทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีเกมรับยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล และเมื่อมองถึงสถิติในลีกนั้น พวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดด้วยการเสียแค่ 14 ประตูจาก 23 เกม และยิ่งบวกกับเกมรุกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ ก็ยิ่งทำให้ แมนฯ ซิตี้ เพียบพร้อมทั้งรับและรุก
ส่วนบนเวทียุโรป แมนฯ ซิตี้ เสียไป 10 ประตู จากการเล่นรอบแบ่งกลุ่มที่มีทีมอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง, แอร์เบ ไลป์ซิก และ คลับ บรูจ
1. ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล มีคู่เซ็นเตอร์แบ็กระดับท็อปอย่าง เฟอร์กิล ฟานไดค์ กับ โฌแอล มาติป และที่ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขนาบข้างช่วยกันตรงพื้นที่ขวาและซ้าย
ตลอดฤดูกาลนี้ ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เสียประตูในลีกไปเพียง 19 ลูกจาก 22 นัด โดยดีสุดเป็นอันดับสี่รองจาก แมนฯ ซิตี้, เชลซี และ วูล์ฟส์
นอกจากนี้ พลพรรค “เครื่องจักรสีแดง” ยังเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับดีสุดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ว่าจะต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง แอต.มาดริด, เอซี มิลาน และ ปอร์โต้ แต่พวกเขาก็เสียไปเพียง 6 ลูกเท่านั้นตลอด 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม
รางวัลชมเชย : วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
ทีมหมาป่าของ บรูโน่ ลาจ มีสถิติเกมรับดีสุดเป็นอันดับสามบนเวที พรีเมียร์ลีก ด้วยการเสียประตูแค่ 16 ลูกจากการลงสนาม 21 เกม
อ้างอิง
https://www.siamsport.co.th/football