“ผลน้ำเต้า” หรือ “ลูกน้ำเต้า” เป็นพืชที่นอกจากจะนำผลอ่อนมาปรุงเป็นอาหารทานได้แล้ว ผลที่แก่แห้งคาต้นยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ที่สำคัญผลของน้ำเต้าคนจีนยังมีความเชื่อว่าเป็นพืชมงคล นิยมมาแขวนไว้หน้าบ้านด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นเครื่องรางแห่งโชคลาภเงินทองเข้าบ้าน ทั้งนี้ “วริษา เซ็งสอน” จึงเกิดไอเดียนำผลน้ำเต้าที่แห้งมาสร้างสรรค์ทำเป็นชิ้นงานออกมาขายสร้างรายได้ โดยการนำมา “เพนท์ลวดลาย” เป็นรูปต่าง ๆ ลงบนลูกน้ำเต้า จนกลายเป็นสินค้าที่มีความสวยงามโดดเด่นและได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี…ซึ่งวันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน
วริษา เซ็งสอน เป็นเจ้าของผลงานวาดลวดลายลงบนลูกน้ำเต้า เล่าว่า… พื้นเพเป็นคน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยก่อนที่จะมายึดทำชิ้นงานเพนท์ลูกน้ำเต้าขายนั้น ก็ทำ งานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ จนมาช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง จึงทำให้ต้องตกงาน ซึ่งหลังจากที่ตกงานก็ย้ายมาอยู่ทางภาคเหนือ ช่วงแรก ๆ ไม่ได้ทำอะไรอยู่บ้านเฉย ๆ ก็เลยเริ่มปลูกพืชผักสวนครัวไว้หลากหลายชนิดเพื่อไว้รับประทานเองในบ้าน ซึ่งต้นน้ำเต้าก็เป็นหนึ่งในพืชผักที่ปลูกไว้ด้วย เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบน้ำเต้าอยู่แล้ว เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคล ช่วยดูดทรัพย์ ส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย
“แรก ๆ ก็ปลูกไว้เพียงแค่ 2-3 ต้น สำหรับไว้นำผลอ่อนของน้ำเต้ามาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารไว้รับประทานกันในบ้านเท่านั้น แต่ด้วยความชอบน้ำเต้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็พยายามเสาะหาสายพันธุ์น้ำเต้าต่าง ๆ ที่มีรูปร่างแปลก ๆ มาปลูกเพิ่ม รวม ๆ แล้วก็มีประมาณ 20 กว่าสายพันธุ์ เมื่อเริ่มปลูกเยอะมากขึ้นก็ปรากฏว่าเก็บกินไม่ทัน มีผลที่ถูกปล่อยให้แก่คาต้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมองว่าน้ำเต้าเป็นพืชที่สามารถนำผลแก่ไปทำเป็นอะไรได้หลากหลายอย่าง อย่างสมัยโบราณผลแห้งของน้ำเต้าทำเป็นขันตักน้ำ ทำเป็นทัพพีหรือช้อนตักอาหาร ก็เลยมีความคิดว่าน่าจะนำผลน้ำเต้าที่แห้งแก่คาต้นมาทำอะไรให้เกิดมูลค่า แรก ๆ ก็เริ่มจากเก็บเมล็ดพันธุ์น้ำเต้าขาย และก็นำผลน้ำเต้าแห้งมาเคลือบแล็กเกอร์ขาย จากนั้นก็เริ่มพัฒนางานมาเรื่อย ๆ ลองเพนท์สีเป็นรูปการ์ตูนต่าง ๆ ลงบนน้ำเต้า แต่ด้วยความที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านศิลปะ จึงต้องใช้ความพยายามฝึกหัดด้วยตัวเอง ทำใหม่ ๆ ก็ทำผิด ๆ ถูก ๆ แต่ก็ใช้ความพยายามฝึกฝนหัดวาด ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือมาเรื่อยจนเกิดความชำนาญ จนสามารถเพนท์รูปบนน้ำเต้าได้อย่างทุกวันนี้ ซึ่งชิ้นงานที่ทำออกมาก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” เจ้าของชิ้นงานกล่าว
…ซึ่งจุดเด่นของชิ้นงานน้ำเต้าเพนท์นั้น อยู่ที่ชิ้นงานแต่ละชิ้นนั้นจะไม่ซ้ำกันไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะโดยรูปทรงของผลน้ำเต้าจะไม่เหมือนกันทุกลูก เนื่องจากผลน้ำเต้าเกิดมาจากธรรมชาติจึงไม่สามารถบังคับให้ออกผลมาเหมือนกันได้…โดยกลุ่มลูกค้ามีหลากหลายทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่ชอบงานแฮนด์เมดที่ทำจากธรรมชาติ…
“ผลน้ำเต้าแห้งนอกจากจะนำมาทำเป็นชิ้นงานการเพนท์รูปได้แล้ว น้ำเต้าแห้งยังสามารถนำไปต่อยอดทำเป็นชิ้นงานอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าทำเป็น โคมไฟ, รังนกใช้ตกแต่งสวน เป็นต้น ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนที่จะสามารถสร้างสรรค์ทำเป็นชิ้นงานอะไรออกมา” วริษากล่าว
ทุนเบื้องต้น
ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำ ทุนวัสดุ อยู่ที่ประมาณ 30-40% จากราคาขาย ซึ่งน้ำเต้าที่เพนท์รูปจะมีราคาอยู่ที่ 1,000 บาทขึ้นไปต่อชิ้น ราคาอยู่กับขนาดและความยากง่ายงานของลวดลายที่เพนท์…นอกจากนั้นยังมีน้ำเต้าแห้งที่ไม่เพนท์ลายขายลูกละ 50 บาท และเมล็ดพันธุ์ขายที่ซองละ 20 บาท
วัสดุอุปกรณ์
หลัก ๆ ประกอบด้วย ผลน้ำเต้าแห้ง, สีอะคริลิก, แล็กเกอร์, ดินสอ เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ “น้ำเต้าเพ้นท์ลาย”
เริ่มจากนำลูกน้ำเต้าที่แห้งมาเจาะรู ขูดเอาเมล็ดรวมถึงเยื่อที่อยู่ข้างในออกให้หมด จากนั้นก็นำไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด ทำการขัดผิวภายนอกที่เป็นคราบสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกให้หมดจนผิวน้ำเต้าเรียบสะอาด เสร็จแล้วก็นำไปผึ่งแดดปล่อยทิ้งไว้จนน้ำเต้าแห้งสนิท
“ถ้าไม่เอาเมล็ดที่อยู่ภายในของน้ำเต้าออกให้หมด ก็จะทำให้เกิดมอดจากข้างในซึ่งมันก็จะเจาะกินทำให้ลูกน้ำเต้าผุพังง่าย อีกอย่างเมล็ดที่นำออกมาสามารถนำไปเพาะขยายพันธุ์ต่อได้ หรือจะนำไปบรรจุซองขายก็ได้” เจ้าของชิ้นงานแนะนำ
เมื่อได้ลูกน้ำเต้าที่ผึ่งแดดแห้งสนิทแล้ว ก็ทำการปิดรูที่เจาะไว้ให้เรียบร้อย จากนั้นเป็นการเลือกหาผลน้ำเต้าที่มีลักษณะต่าง ๆ ดูว่ารูปทรงของผลน้ำเต้าลักษณะไหนเหมาะที่จะนำมาทำการเพนท์เป็นรูปอะไร เมื่อได้รูปทรงน้ำเต้าตามที่ต้องการแล้ว ก็เริ่มลงมือเพนท์ลวดลายได้ โดยเริ่มจากออกแบบรูปภาพที่ต้องการจะวาดลงบนผลน้ำเต้าก่อน เมื่อได้แบบแล้วก็ใช้ดินสอทำการสเกตช์แบบลงบนน้ำเต้าที่เตรียมไว้ ร่างแบบเสร็จแล้วก็เริ่มเพนท์สีตามแบบได้ทันที หลังจากที่เพนท์สีเสร็จแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ รอจนสีที่เพนท์ไว้แห้งสนิทดีแล้ว ก็นำไปทาเคลือบด้วยแล็กเกอร์ทับให้ทั่วและปล่อยทิ้งไว้จนแล็กเกอร์แห้งสนิทดี เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
“งานฝีมืองานแฮนด์เมดประเภทนี้แม้จะไม่มีความรู้ และไม่ได้เรียนมาทางด้านศิลปะมาก่อนก็สามารถฝึกหัดทำกันได้ไม่ยากเกินความสามารถ แค่ต้องมีความชอบมีใจรักในงานศิลปะ และมีความตั้งใจจริง มีความพยายามหมั่นฝึกหัดวาดหัดเพนท์ลงสีบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดความชำนาญ และฝีมือก็จะพัฒนาขึ้นมา” เจ้าของชิ้นงานแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจทำชิ้นงานประเภทนี้
สนใจงาน “น้ำเต้าเพนท์ลวดลาย” ของ วริษา เซ็งสอน เข้าไปชมสินค้าและสั่งทำชิ้นงานได้ที่ เฟซบุ๊ก : Amazing Gourds by Warisa หรือทาง ไลน์ ID : warisa777
สำหรับผู้ที่สนใจทำชิ้นงาน “น้ำเต้าเพนท์” แบบนี้ ถ้ามีความชอบและมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำจริงก็ไม่ยาก ซึ่งงานฝีมือประเภทนี้สามารถใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” สร้างรายได้ได้น่าสนใจ.
……………………………………………….
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
เครดิต https://www.dailynews.co.th/article/766678
