“บาร์บีคิวหมู-ไก่-เนื้อ” เมนูอาหารทานเล่นที่ทำง่าย ทำเป็นอาชีพสร้างรายได้กำไรงาม

ออร์เดิร์ฟ - อาหารว่าง

สถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ที่ผ่านมาคนถูกกักตัวอยู่กับบ้านจึงขจัดความเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ด้วยการฝึกทำอาหารเพื่อรับประทานกันในครอบครัว และหนึ่งในเมนูที่จะพลาดไม่ได้เลย คือ “บาร์บีคิว” เมนูอาหารทานเล่นที่ทำง่าย แต่หลาย ๆ คนชื่นชอบ สามารถทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ๆ วันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลเรื่องบาร์บีคิวมานำเสนอ

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ คือ วรรณา สมดี หรือ “เล็ก” วัย 57 ปี เจ้าของร้าน “อ้วน บาร์บีคิว” ซึ่งได้เล่าถึงที่มาที่ไปของอาชีพทำบาร์บีคิวขายว่า ได้ประกอบอาชีพนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แรกเริ่มเดิมที่ครอบครัวมีอาชีพเป็นชาวสวนทำไร่มันสำปะหลังอยู่ที่ จ.อุทัยธานี พอดีปีนั้นประสบปัญหาภัยรุนแรงทำให้มีหนี้สินซ้ำซาก เธอจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ โดยจากเป็นลูกจ้างน้าสาวขายบาร์บีคิว ขายไม้ละ 5 บาท เธอจะได้ไม้ละ 1.50 บาท ช่วงเช้าจะต้องช่วยเสียบบาร์บีคิว แล้วปั่นซาเล้งไปตระเวนขายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สมัยนั้นเขายังไม่ห้ามขาย ซึ่งจุดที่ขายประจำ คือ ตลาดนัดโต้รุ่งหน้าโรงอาหารกลาง 1 หรือเรียกกันว่าตลาดนัดสระน้ำจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ตลาดตรงนี้จะเปิดขายตั้งแต่เวลา 15.00 น. ไปจนถึง 21.00 น. ทุกวัน ขายเสร็จกว่าเธอจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว

“สมัยก่อนไม่ค่อยมีแม่ค้า เราไปจอดขายจุดไหนก็ขายดี ต่อวันขายได้ 500-600 ไม้ แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่รายได้ดีมากจึงพอจะชดเชยกันได้ เป็นลูกจ้างน้าสาวอยู่ประมาณ 2 ปี แฟนก็ตามมาอยู่ด้วยกัน และแยกไปขายที่โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี เราสองคนผัวเมียก็ช่วยกันเก็บเงินอยู่หลายปีจนสามารถซื้อรถปิกอัพมือสองเพื่อไว้ใช้ทำมาหากิน น้าสาวเข้าใจถึงความจำเป็นว่าเรายังมีหนี้สินจึงสอนการทำบาร์บีคิวให้และแยกตัวไปทำขายเอง จนในที่สุดก็สามารถใช้หนี้ ธ.ก.ส. ได้หมด จากนั้นก็รับลูก 2 คน มาเรียนหนังสือที่ในกรุงเทพฯ จากนั้นก็ขายตามตลาดนัดและตามจุดที่ขายเดิมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยบาร์บีคิวที่ขายมี 3 ชนิด ได้แก่ บาร์บีคิวหมู, บาร์บีคิวไก่, บาร์บีคิวเนื้อ ซึ่งขายไม้ละ 7 บาท เราไม่เอากำไรมาก แค่พออยู่ได้เพราะลูกค้าขาประจำคือ นักศึกษาและอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์”

เล็ก บอกว่า บาร์บีคิวของร้านจะมีความโดดเด่นตรงที่เนื้อจะนุ่มในแบบธรรมชาติ เวลาเคี้ยวจะให้ความรู้สึกว่ากินเนื้อที่อร่อยจริง ๆ เนื่องจากของที่ร้านไม่ใส่ผงหมักเนื้อนุ่มหรือเนื้อเปื่อย เพราะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะเข้มงวดเรื่องการใช้สารปนเปื้อนอย่างมาก จะมีเจ้าหน้าที่เอาสินค้าไปตรวจบ่อย ๆ  ถ้าเจอจะให้หยุดขายทันที เช่นเดียวกันจะมีการสุ่มตรวจถ้าเจอแม่ค้าคนไหนเป็นโรคติดต่อก็ให้หยุดขายไปก่อน จนกว่าจะหายดีจึงกลับมาขายใหม่ได้

อุปกรณ์

ที่ใช้ทำ “บาร์บีคิว” หลัก ๆ ก็มี..เตาย่าง (จะเป็นเตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็ได้ ), ตะแกรง, ถาดอะลูมิเนียม, หม้อ, มีด, กระทะ, ทัพพี, ไม้เสียบ, แปรงสำหรับทาเนย, ขวดพลาสติกใส่ซอส และเครื่องไม้เครื่องมือ
อื่น ๆ ยืมได้จากในครัว

วัตถุดิบ

ที่ใช้ทำ “บาร์บีคิว” หลัก ๆ มี เนื้อหมูสันนอก, เนื้ออกไก่ และเนื้อวัวสันแหลม (ริบอาย), มะเขือเทศสีดา, สับปะรด, พริกหยวก, น้ำมันหอย, ผงปรุงรสรสหมู, น้ำตาลทราย, เนย, พริกไทยป่น, ซอสมะเขือเทศ และซอสพริก

ขั้นตอนการทำ “บาร์บีคิว”

เริ่มจากนำวัตถุดิบหลัก อย่าง เนื้อหมูสันนอก, เนื้ออกไก่ และเนื้อวัวสันแหลม มาจัดการล้างให้สะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำเนื้อหมู, เนื้อไก่ และเนื้อวัว มาหั่นสไลซ์เป็นแผ่น ๆ เสร็จแล้วใช้ไม้ทุบเนื้อเบา ๆ ให้ทั่วแผ่น เพื่อตัดเส้นใยกล้ามเนื้อ จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดกว้าง 2 ซม. และยาวประมาณ 3.5 ซม. เตรียมไว้ในภาชนะ

ส่วนผสมของซอสหมักหมู, ไก่ และเนื้อ (ต่อเนื้อหมู/ไก่/เนื้อ จำนวน 3 กก.) มี..น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ, ผงปรุงรสรสหมู 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันงา 6 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำซอสหมักเนื้อสัตว์

โดยนำส่วนผสมซอสทั้งหมดลงในภาชนะ จัดการคนส่วนผสมให้เข้ากันดี เสร็จแล้วนำเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ใส่ตามลงไป ใช้มือคลุกเคล้าและนวดให้ส่วนผสมซอสกับเนื้อสัตว์เข้ากันดี เสร็จแล้วนำไปหมักในตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป ก่อนจะนำออกมาเสียบไม้

ระหว่างรอการหมักเนื้อสัตว์ ให้จัดการเตรียมผักสดและผลไม้ชูรสชาติ อย่างเช่น มะเขือเทศ นำมาล้างให้สะอาด แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้, พริกหยวก นำมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำ เตรียมไว้ ส่วน สับปะรด นำมาปอกเปลือก แซะเอาตาสับปะรดออก ล้างให้สะอาด ผึ้งให้แห้งแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอคำเตรียมไว้

การเสียบบาร์บีคิว

เมื่อหมักเนื้อสัตว์ได้ท่ี่ดีแล้วก็นำมาออกเสียบไม้ ซึ่งการเสียบให้เสียบจากด้านบนลงด้านล่าง โดยชั้นล่างสุด คือสับปะรด ตามด้วยพริกหยวก, มะเขือเทศ และเนื้อสัตว์ เสียบไปเรื่อย ๆ จนของหมด เสร็จแล้วจัดการแพ็กใส่กล่องพลาสติกเตรียมไว้ย่างขาย

ต่อไปเป็นการย่างบาร์บีคิว

วอร์มเตาไฟฟ้าให้ร้อน ใช้ไฟร้อนปานกลาง เตรียมไว้ หากเป็นเตาถ่านให้ติดเตาตั้งตะแกรงย่างให้พร้อม เมื่อไฟที่ใช้ย่างร้อนได้ที่แล้ว ค่อย ๆ วางไม้บาร์บีคิวลงไปย่าง โดยเรียงให้เป็นระเบียบ เมื่อเนื้อฝั่งด้านล่างสุก ให้พลิกอีกด้านแล้วย่างจนสุก อย่าพลิกย่างไป-มา หลาย ๆ ครั้ง เพราะทำให้เนื้อสัตว์สูญเสียน้ำ เมื่อเนื้อสุกให้ใช้แปรงป้ายเนยมาทาให้ทั่วทั้งสองด้าน บาร์บีคิวจะส่งกลิ่นหอมยั่วยวนมาก เสร็จแล้วก็เอาขึ้นวางในถาดเตรียมไว้

เมื่อจะเสิร์ฟขาย ให้นำบาร์บีคิวมาอุ่นไฟอ่อน ๆ ราดซอสมะเขือเทศ และซอสพริก ตามความต้องการของลูกค้า และเหยาะด้วยพริกไทยป่น เพียงเท่านี้ก็อร่อยล้ำเกินคำบรรยายแล้ว

สำหรับราคาขาย “บาร์บีคิว” เจ้านี้ ขายในราคาไม้ละ 7 บาท (ขาย 3 ไม้ 20 บาท)

ใครสนใจอาชีพนี้ก็ลองนำสูตรไปฝึกฝนทำกันดู  หากอยากชิม “บาร์บีคิว” เจ้านี้ ว่าอร่อยจริงหรือมีความแตกต่างจากเจ้าอื่นยังไง เจ้านี้จะขายที่ตลาดนัดโต้รุ่งโรงอาหารกลาง 1 (ตลาดนัดสระน้ำจุฬาภรณวลัยลักษณ์) จะตั้งร้านขายตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึง 21.00 น. ทุกวัน และวันศุกร์ จะขายตลาดนัดเช้าที่กรมประมง ม.เกษตรศาสตร์บางเขน หากต้องการติดต่อไปออกงานนอกสถานที่หรือสั่งไปใช้ในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ติดต่อ  เล็ก-วรรณา สมดี เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-7970-2027 ซึ่งอาหารว่างต่างชาติอย่าง “บาร์บีคิว” นี้ ยังเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย และเป็นช่องทางทำกินที่ดี….

…………………………………………..
เชาวลี ชุมขำ : รายงาน
เครดิต https://www.dailynews.co.th/article/773422