ธุรกิจเมื่อถึงทางตัน ต้องทำอย่างไร

คัมภีร์เศรษฐี 4.0

เมื่อภูมิภาคอาเซียนในปัจจุบันนี้ เกิดเหตุการณ์คล้ายกับที่ประเทศจีน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว นั่นคือ กลุ่มชนชั้นกลาง เติบโตขึ้น และมีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้น และที่สำคัญกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก ในกลุ่มชนชั้นกลาง จนเห็นได้ชัด รวมไปถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคแบบก้าวกระโดด

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดการตั้งคำถามขึ้นว่า การเติบโตนี้ จะสิ้นสุดที่ตรงไหน และเมื่อไร อีกทั้งตลาดในภูมิภาคอาเซียน ที่มีแนวโน้มจะเติบโตแบบไม่หยุด แต่จะสามารถเติบโตในระดับโลกที่เป็นเป้าหมายต่อไปได้หรือไม่

 

ธุรกิจยิ่งหลากหลาย ยิ่งมีความได้เปรียบ

การที่ธุรกิจมีคู่แข่งมาก โอกาสที่จะปรับปรุงคุณภาพธุรกิจของตัวเองมีเยอะมากเช่นกัน และยิ่งตลาดมีความหลากหลาย ทั้งทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และอื่น ๆ รวมด้วยอยู่แล้วนั้น เช่น ในประเทศอินโดนีเซีย มีภาษาที่ใช้กันถึง 500 กว่าภาษา และในกลุ่มประเทศอาเซียนมีวัฒนธรรม และศาสนาที่แตกต่างกัน ก็สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณได้เรียนรู้ตลาดที่แตกต่างกัน และพร้อมที่จะโบยบินออกไปเติบโตที่นอกตลาดภูมิภาคได้ไม่ยาก

ซึ่งในปัจจุบันนี้ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนในอาเซียนก็มีความหลากหลายด้วยเช่นกัน เช่น ผู้คนในประเทศลาว มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เพียงแค่ 23% เท่านั้น ในขณะที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสูงถึง 85% ดังนั้นหากธุรกิจไหนที่ทำธุรกิจผ่านสมาร์ทโฟน และมีความต้องการขยาดตลาด ก็ต้องเข้าใจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของแต่ละตลาดได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง การเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่จะขายในภูมิภาค ทั้งในเรื่องกลยุทธ์การขาย และการตลาด เพื่อจะได้เจาะแต่ละตลาดที่แตกต่างได้

 

เมื่อบัณฑิตนักเรียนนอก ต่างพากันกลับบ้านเกิด

ในช่วง 10 ปีที่แล้ว ตลาดธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศจีน ยังถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มาก แต่เมื่อเหล่าบัณฑิตที่เรียนจบนอก และเคยตั้งรกรากที่อยู่ในต่างประเทศหลังจากที่เรียนจบแล้ว กลับมาเริ่มธุรกิจที่บ้านเกิดของตัวเอง ก็เริ่มทำให้เศรษฐกิจในประเทศจีน เปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ เศรษฐกิจชนชั้นกลางในกลุ่มประเทศอาเซียน ก็กำลังดึงดูดให้คนรุ่นใหม่ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศกลับมาบ้านเกิด และเทรนด์นี้ จะมีแนวโน้มทำให้เศรษฐกิจแบบสตาร์ทอัพขยายตัวขึ้น ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีสัญชาติสิงคโปร์ 100 คน จะมีอยู่ 6 คนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย เป็นต้น มีรายงานล่าสุดระบุออกมาว่า 80% ของชาวสิงคโปร์ที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ จะยอมกลับบ้าน หากมีข้อเสนอแนะดี ๆ ให้กับพวกเขา เห็นได้ชัดเมื่อ Google เข้ามาเปิดออฟฟิศในสิงคโปร์